Select your favorite topic
TOEFL คือ แบบทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ ข้อสอบมีทั้งหมด 4 พาร์ท คือ Reading , Listening , Speaking , Writing
เมนูด่วน : | |
เรียน ติว TOEFL | TOEFL คือ |
ข้อสอบ TOEFL | TOEFL สอบ |
TOEFL คะแนนเต็ม |
รหัสคอร์ส | วันเรียน | รอบ | เวลา | หมายเหตุ | Test Date Exam |
เหลือที่นั่ง | อาจารย์ |
ZCA0121 | 11 ม.ค. – 4 ก.พ. | จ-พฤ | 18:00-20:30 |
[เต็มแล้ว]
|
-2 |
||
ZCB0121 | 16 ม.ค. – 7 ก.พ. | ส-อา | 10:00-16:00 |
[เต็มแล้ว]
|
-3 |
||
CECA0221 | 15 ก.พ. – 11 มี.ค. | จ-พฤ | 18:00-20:30 |
จองที่นั่ง
|
7 |
||
CECB0221 | 20 ก.พ. – 14 มี.ค. | ส-อา | 10:00-16:00 |
จองที่นั่ง
|
6 |
อัตราค่าเรียน 12,500 บาท
สอบ TOEFL ได้อย่างที่คิด พิชิตคะแนน TOEFL ได้อย่างที่ฝัน ข้อสอบ TOEFL ที่ใครก็ว่ายาก จะไม่ยากอีก ต่อไป ด้วยเทคนิคพิเศษที่มีเฉพาะที่จุฬาติวเตอร์เท่านั้น ใครที่วางแผนจะสอบ TOEFLแต่ยังไม่รู้จะเตรียมตัวอย่างไร จุฬาติวเตอร์มีคอร์สเรียนพิเศษที่จะช่วยให้การทำข้อสอบ TOEFL ของทุกคนเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆลืมปัญหาเดิมๆไปได้เลยทั้งปัญหาการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ไม่ว่าคุณจะพื้นฐานอ่อนแค่ไหน จะเคยสอบหรือไม่เคยสอบ ก็สามารถพัฒนาความสามารถให้เพียงพอสำหรับการพิชิตข้อสอบ TOEFL ได้ ปลดล๊อคปัญหาเดิม ๆ ทั้งการฟังที่ฟังเท่าไหร่ก็ฟังไม่ทัน ฟังเท่าไหร่ก็ฟังไม่ออก ปัญหาการพูด ยิ่งพูดยิ่งงง วกไปวนมา นึกคำศัพท์ไม่ออก พูดไม่ลื่นไหล ปัญหาการอ่านที่อ่านทีไรก็ยังไม่เข้าใจ จับใจความไม่ได้ ทำไม่ทัน และปัญหาการเขียนที่ไม่รู้จะเขียนไปในรูปแบบใด เลือกใช้คำไม่ถูก เขียนไม่ตรงประเด็น ถึงเวลาเติมเต็มจุดอ่อนให้ดีขึ้น ด้วยคอร์สเรียนสุดพิเศษที่ออกแบบมาให้เน้นที่ผู้เรียนเป็นสำคัญ!!! คลิ๊กดูรายละเอียดคอร์ส เรียน ติว TOEFL เพิ่มเติม
เรียน ติว TOEFL ตัวต่อตัว | |||
จำนวนนักเรียน | จำนวนชั่วโมง | ||
20 ชม. | 30 ชม. | 30 ชม. | |
1 คน | 22,000 ฿ | 33,000 ฿ | 44,000 ฿ |
2 คน ( ประหยัดถึง 25% ) |
33,000 ฿ | 49,500 ฿ | 66,000 ฿ |
3 คน ( ประหยัดถึง 40% ) |
39,600 ฿ | 59,400 ฿ | 79,200 ฿ |
แถมฟรี 2 ชม. | แถมฟรี 4 ชม. | ||
หมายเหตุ : – คอร์สส่วนตัว-ห้องเรียนส่วนตัว เรียนที่สถาบัน ผู้เรียนสามารถเลือกวันและเวลา เรียนเองได้ |
TOEFL คือ การทดสอบภาษาอังกฤษตามแบบมาตรฐานของอเมริกัน สำหรับการสอบ TOEFL สามารถนำผลสอบไปเพื่อศึกษาต่อหรือว่าสมัครงานในประเทศที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาในการสื่อสารได้ค่ะ โดยผลสอบ TOEFL จะมีอายุการใช้งาน 2 ปี หลังจากที่ได้รับการทดสอบค่ะ
ข้อสอบ TOEFL มี 3 แบบ คือ Paper-based Testing : PBT จะเป็นข้อสอบแบบที่ใช้กระดาษในการทำข้อสอบ จากนั้นมีการพัฒนามาเป็นแบบ Computer-based Testing : CBT เป็นการทำข้อสอบผ่านระบบคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็มีการพัฒนามาเรื่อยๆ จนเป็นแบบ Internet-based Testing : iBT ซึ่งเป็นการทำข้อสอบผ่านเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ต เป็นการทดสอบที่ได้รับความนิยมและทำกันแพร่หลายในทุกวันนี้
ข้อสอบ TOEFL ในปัจจุบันนี้ในระบบ Internet-based Testing: iBT จะแบ่งเป็น 4 พาร์ท ด้วยกัน Reading, Writing, Listening และ Speaking แต่ถ้าเป็นข้อสอบ TOEFL ใน 2 ระบบแรก จะมีด้วยกัน 3 พาร์ท คือ Reading, Writing และ Listening ซึ่งข้อสอบ TOEFL ไม่ว่ารูปแบบไหนจะเป็นการนำความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของเรามาบูรณาการใช้ด้วยกัน ดังนั้นผู้ทดสอบจะต้องมีสมาธิในการสอบมากค่ะ สำหรับในส่วนของ Listening จะมีเรื่องราวมาให้ฟังทั้งหมด 6 เรื่อง โดยแต่ละเรื่องจะมีความยาวประมาณ 3-5นาที และจะมีคำถามประมาณ 5 ข้อ ในส่วนของ 2 เรื่องแรกจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตประจำวัน ใน 4 เรื่องหลังจะเป็นเรื่องของบทเรียน ความรู้ทางวิชาการต่างๆ ในส่วนของ Reading จะมีบทความมาให้อ่านด้วยกันประมาณ 3-5 บทความ ความยาวจะอยู่ที่ประมาณ 700 คำ และจะมีคำถามในแต่ละบทความรวมแล้วประมาณ 12-15 ข้อ ในส่วนของ Writing จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกจะเป็นบทสนทนา เกี่ยวกับเรื่องของบทความโดยก่อนหน้านั้นจะมีบทความมาให้อ่านความยาวประมาณ 3 นาที จากนั้นจะมีบทสนทนาเกี่ยวกับบทความนั้น ซึ่งจะต้องใช้ความรู้ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ในการตอบคำถามจะมีเวลาให้เขียนประมาณ 20 นาที จะมาความยาวในการเขียนประมาณ 150-220 คำ ส่วนที่ 2 ผู้ทดสอบจะได้รับข้อความสั้น โดยผู้ทดสอบต้องแสดงทัศนคติอย่างเป็นเหตุเป็นผลเขียนอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนั้น ความยาวประมาณ 300 คำ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่ถ้าผู้ทดสอบไปทดสอบข้อสอบ TOEFL ในระบบ Internet-based Testing: iBT จะมีข้อสอบในส่วนของ Speaking เพิ่มเข้ามาด้วยค่ะ ซึ่งในส่วนนี้มีความยากส่วนหนึ่งของข้อสอบ TOEFL เลยค่ะ เพราะว่ามีเวลาที่จำกัดและต้องใช้ทักษะในทุกด้านในการทำข้อสอบ โดยข้อสอบของ Speaking จะแบ่งเป็น 6 ข้อ มี 3 ส่วนด้วยกันค่ะ โดยข้อที่ 1-2 จะเป็นข้อสอบให้เราแสดงทัศนะความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวันค่ะ โดยจะมีระยะเวลาในการเตรียมตัวประมาณ 15 วินาที และมีเวลา 45 วินาทีในการตอบคำถาม ในส่วนข้อที่ 3-4 จะมีบทความสั้นมาให้อ่านเกี่ยวกับประเด็นใดประเด็นหนึ่งจากนั้นจะมีบทสนทนาเกี่ยวกับประเด็นนั้นๆ ค่ะ และมีเวลาในการเตรียมตัว 30 วินาที หลังจากนั้นจะมีเวลาประมาณ 60 วินาทีในการตอบคำถาม ในส่วนสุดท้าย ข้อที่ 5-6 จะได้รับข้อมูล บทสนทนาหรือบทวิเคราะห์ที่เกี่ยวกับวิชาการจากนั้นจะมีเวลา 20 วินาทีในการเตรียมตัว และเวลา 60 วินาทีในการตอบคำถาม
สำหรับการทำ ข้อสอบ TOEFL เนื่องจากเป็นข้อสอบที่มาจากมาตรฐานแบบอเมริกัน ดังนั้นลักษณะของข้อสอบจะค่อยข้างต่างจากแบบทดสอบภาษาอังกฤษทั่วไปที่มีอยู่ในประเทศไทยค่ะ ดังนั้นการสร้างความคุ้นเคยในการทำข้อสอบจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ โดยอาจจะไปซื้อหนังสือหรือหาข้อสอบเก่าเกี่ยวกับ TOEFL มาทดลองทำ เพราะว่าชุดคำศัพท์ที่ใช้ในการออกข้อสอบในแต่จะปีจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันค่ะ การทำฝึกทำข้อสอบบ่อยๆ จะให้ให้เราเกิดความคุ้นเคยและสามารถทำข้อสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ นอกจากนี้จะเห็นได้ว่ามาทำข้อสอบแต่ละส่วนของ TOEFL จะมีการจับเวลา เพราะฉะนั้นการทำข้อสอบแล้วจับเวลาไปด้วยจะช่วยได้มากค่ะ จะทำให้เราประมาณศักยภาพในการทำข้อสอบของเรามากยิ่งขึ้นค่ะ หรืออาจจะไปเรียนตามสถาบันต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีการเปิดสอนอย่างแพร่หลายเกี่ยวกับด้าน TOEFL
สำหรับในประเทศไทยหน่วยงานที่รับผิดชอบในการสอบ TOEFL คือ Education Testing Service หรือ ETS ผู้ที่สนใจสอบสามารถโทรไปสอบถามรายละเอียดหรือจองการสอบ ส่งไปรษณีย์ และสามารถสมัครออนไลน์ได้ www.est.org/toefl โดยการสอบ TOEFL จะมีค่าใช้จ่ายในการสอบประมาณ 6000 บาท ซึ่งสามารถโอนเงินผ่านระบบธนาคารได้เลยค่ะ สำหรับการรับคะแนนสอบ TOEFL หน่วยงานในการจัดสอบจะส่งผลสอบมาให้ 5 ชุด โดยชุดแรกส่งมาให้ยังตัวผู้สอบ อีก 4 ชุดตัวผู้สอบสามารถระบุสถานศึกษาหรือสถานที่ทำงานที่ต้องการให้ส่งผลสอบไปได้ด้วยค่ะ โดยในแต่ละพาร์ท์จะต้องทำข้อสอบอย่างน้อย 1 หัวข้อ โดยคะแนนสามารถของสอบใหม่ได้ใน 2 ส่วน คือในส่วนของ Writing และ Speaking โดยจะมีค่าธรรมเนียมพาร์ทละ 2000 บาทค่ะ
ทักษะ | ช่วงคะแนน | ระดับ | คะแนน |
การอ่าน | 0-30 คะแนน | สูง กลาง ต่ำ |
22-30 15-21 0-14 |
การฟัง | 0-30 คะแนน | สูง กลาง ต่ำ |
22-30 15-21 0-14 |
การพูด | 0-30 คะแนน | ดี ปานกลาง จำกัด อ่อน |
26-30 18-25 10-17 0-9 |
การเขียน | 0-30 คะแนน | ดี ปานกลาง จำกัด |
24-30 17-23 1-16 |
รวม | 0-120 คะแนน |
คะแนน TOEFL iBT จะมคะแนนสำหรับทั้ง 4 ทักษะ ดังนี้
การอ่าน 0-30 คะแนน
การฟัง 0-30 คะแนน
การพูด 0-30 คะแนน
การเขียน 0-30 คะแนน
คะแนนรวม 0-120 คะแนน
ผลรวมคะแนนทั้งหมดเท่ากับคะแนนรวมจากทั้ง 4 ทักษะ
TOEFL และ CU-TEP ยังคงเป็นข้อสอบที่หลายคนต่างลังเลว่าจะเลือกสอบอะไรดี วันนี้เราก็ได้นำข้อสอบทั้งสองมาเปรียบเทียบกันให้เห็นไปเลยว่าข้อสอบ CU-TEP และ TOEFL มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ในการเลือกสอบต่อไป ซึ่งเราก็ได้แบ่ง TOEFL ออกเป็นสองประเภทให้ด้วย เพราะ TOEFL มีหลายแบบ แต่ละแบบก็มีความแตกต่างกันด้วยนั่นเอง
รายละเอียด | TOEFL ITP | TOEFL iBT | CU-TEP |
ประเภทการสอบ | มีเฉพาะการทำข้อสอบในกระดาษ | มีเฉพาะการทำข้อสอบในคอมพิวเตอร์ | มีทั้งแบบทำข้อสอบในกระดาษและแบบทำข้อสอบในคอมพิวเตอร์ให้เลือก |
การใช้คะแนน | -มักใช้ในการยื่นสมัครเรียนหรือสมัครงาน -เป็นข้อสอบที่ออกแบบโดย Education Testing Service (ETS) สามารถยื่นได้หลากหลายมากกว่า CU-TEP |
-มักใช้ในการยื่นสมัครเรียนหรือสมัครงาน -เป็นข้อสอบที่ออกแบบโดย Education Testing Service (ETS) เป็นมาตรฐานระดับสากล มีการใช้คะแนนนี้ในหลายร้อยประเทศทั่วโลก จึงสามารถยื่นได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ |
-มักใช้ในการยื่นสมัครเรียนหรือสมัครงาน -เป็นข้อสอบที่ออกโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงยื่นได้เฉพาะที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานอื่นบางหน่วยงานที่กำหนดรับคะแนนนี้เท่านั้น |
โครงสร้างข้อสอบ | -Listening Comprehension 50 ข้อ 35 นาที -Structure & Written Expression 40 ข้อ 25 นาที -Reading Comprehension 50 ข้อ 55 นาที |
-Listening 28-39 ข้อ เวลา 41-57 นาที -Reading 30 – 40 ข้อ เวลา 54-72 นาที -Writing 2 ข้อ เวลา 50 นาที -Speaking 4 ข้อ เวลา 17 นาที |
-Listening 30 ข้อ เวลา 30 นาที -Reading 60 ข้อ เวลา 70 นาที -Writing: 30 ข้อ เวลา 30นาที -Speaking (ไม่บังคับสอบ สามารถเลือกได้) 3 พาร์ท เวลา 15 นาที |
ข้อสอบพาร์ทโครงสร้างข้อส Listening | -เป็นแบบเลือกตอบ -ไม่มีหูฟังส่วนตัว |
-เป็นแบบเลือกตอบ (เน้นให้ฟังให้จบก่อนจึงจะเห็นคำถาม) -มีหูฟังส่วนตัว |
-เป็นแบบเลือกตอบ -กรณีสอบแบบกระดาษจะไม่มีหูฟังส่วนตัว -กรณีสอบแบบคอมพิวเตอร์จะมีหูฟังส่วนตัว |
ข้อสอบพาร์ท Reading | -เป็นแบบเลือกตอบ -เนื้อหาบทความเป็นเชิงวิชาการ (มักเกี่ยวกับเรื่องราวของอเมริกา) |
-เป็นแบบเลือกตอบ -เนื้อหาบทความเป็นเชิงวิชาการ -เน้นการตีความเฉพาะ Paragraph นั้น ๆ |
-เป็นแบบเลือกตอบ -เนื้อหาบทความเป็นเชิงวิชาการ |
ข้อสอบพาร์ท Writing | -เป็นแบบเลือกตอบแนว error และการทำประโยคให้สมบูรณ์ วัดทักษะเกี่ยวกับ ไวยกรณ์ภาษาอังกฤษ -ไม่มีการเขียนเรียงความ |
ข้อ 1 เขียนเรียงความ 5 ย่อหน้า ความยาวประมาณ 300 – 350 คำ ข้อ 2 อ่านบทความและฟังการบรรยายแล้วจึงเขียนเรียงความยาวประมาณ 150 – 225 คำ |
-เป็นแบบเลือกตอบแนว error วัดทักษะเกี่ยวกับไวยกรณ์ภาษาอังกฤษ -ไม่มีการเขียนเรียงความ |
ข้อสอบพาร์ท Speaking | ไม่มีสอบเกี่ยวกับการพูด | ตอบคำถามกับคอมพิวเตอร์ | หากเลือกสอบพาร์ทนี้ด้วย จะเป็นการตอบคำถามกับคอมพิวเตอร์ |
การสมัครสอบ | สมัครสอบได้ที่หน่วยงานที่เป็นตัวแทนการจัดสอบ (มีให้เลือกหลายหน่วยงาน) | สมัครผ่านระบบออนไลน์ทางหน้าเว็บไซต์ของ www.ets.org เท่านั้น | สมัครสอบได้ทั้งผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ http://www.atc.chula.ac.th |
คะแนน | คะแนนรวมอยู่ระหว่าง 310 – 677 คะแนน | คะแนนเต็ม 120 คะแนน แบ่งเป็น Listening 30 คะแนน Reading 30 คะแนน Writing 30 คะแนน Speaking 30 คะแนน |
คะแนนเต็ม 120 คะแนน แบ่งเป็น Listening 30 คะแนน Reading 60 คะแนน Writing 30 คะแนน |
อายุผลสอบ | 2 ปี | 2 ปี | 2 ปี |
ระยะเวลาออกผลสอบ | รอผลประมาณ 1-3 วันหลังสอบ (ขึ้นอยู่กับแต่ละศูนย์สอบ) | รอผลประมาณ 6 วันหลังสอบ | -กรณีสอบแบบกระดาษ รอผล 2 สัปดาห์หลังสอบ -กรณีสอบแบบคอมพิวเตอร์ ทราบผลทันทีหลังสอบเสร็จ -เฉพาะการสอบ Speaking รอผล 3 สัปดาห์หลังสอบ |
จากตารางดังกล่าวเราจะเห็นได้ว่า ข้อสอบ TOEFL เป็นข้อสอบที่มีความเป็นสากลมากกว่า หากไหนๆเราจะสอบทั้งที หากสามารถเลือกข้อสอบที่มีความเป็นสากล สามารถใช้คะแนนได้หลากหลาย ก็น่าจะเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย นอกจากนี้การสอบ TOEFL ยังทราบผลคะแนนได้เร็วกว่าและมีการจัดสอบบ่อยกว่า CU-TEP อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การจะเลือกสอบข้อสอบใดนั้น ก็อาจจะต้องขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคลด้วย
ถ้าพูดถึงหนังสือสำหรับการเตรียมสอบ TOEFL iBT แล้วล่ะก็ หลาย ๆ คนคงเลือกไม่ถูกกันแน่ ๆ เพราะ หนังสือที่เกี่ยวกับการเตรียมสอบ TOEFL iBT ในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกเยอะมาก เยอะจนเลือกไม่ถูกว่าควรจะอ่านเล่มไหนดี แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำหนังสือให้กับคนที่กำลังเตรียมสอบกันค่ะ เดี๋ยวเราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าจะมีเล่มไหนกันบ้าง
เริ่มต้นกันที่เล่มแรก บอกได้เลยว่าเหมาะมาก ๆ สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มเตรียมตัว ซึ่งหนังสือที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั่นก็คือ The Cambridge Preparation for the TOEFL Test, Fourth Edition นั่นเองค่ะ โดยเนื้อหาจะเริ่มจากง่ายๆก่อน แล้วจึงค่อยเพิ่มระดับให้ยากขึ้นเทียบเท่ากับข้อสอบจริง และนอกจากนี้ยังมีแบบฝึกหัดให้ทำเยอะมาก ๆ อีกด้วย
หนังสือสำหรับเตรียมสอบ TOEFL iBT เล่มต่อไปที่เราจะแนะนำ คือ ETS the official guide to Toefl test ค่ะ เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานแล้วไปจนถึงคนที่เก่ง ๆ ได้เลย และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ แนวข้อสอบในเล่มนี้จะใกล้เคียงกับของจริงมาก แต่อาจจะไม่ค่อยมีคำอธิบายหรือคำแนะนำในพาร์ทของข้อสอบมากเท่าไหร่ จึงเหมาะกับคนที่พอจะมีพื้นฐานอยู่บ้างแล้วนั่นเองค่ะ
และหนังสือเตรียมสอบ TOEFL iBT เล่มสุดท้ายที่เราจะแนะนำกันในวันนี้ คือ Essential Words for the TOEFL ซึ่งเป็นหนังสือที่เน้นไปทางด้านคำศัพท์สำหรับการสอบ TOEFl iBT โดยเฉพาะ ใครที่อยากจะเตรียมความพร้อมในด้านคำศัพท์สำหรับการสอบตัวนี้โดยเฉพาะค่ะ
และนี่ก็คือหนังสือสำหรับการเตรียมสอบ TOEFL iBT ทั้งสามเล่มที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้ แต่หากใครที่ไม่อยากอ่านหนังสือเอง ไม่ค่อยมีเวลา หรือสะดวกแบบที่มีคนคอยให้คำแนะนำมากกว่าอ่านเอง ที่จุฬาติวเตอร์เรามีคอร์สเรียน TOEFL iBT สำหรับการเตรียมสอบโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะอยากปูพื้นฐานหรือเน้นเทคนิคการทำข้อสอบ ก็สามารถเลือกตามสไตล์เราได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถสอนได้ทุกพาร์ทโดยติวเตอร์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านข้อสอบโดยตรง เพื่อให้ผู้เรียนเหนื่อยน้อยลงและพร้อมสำหรับการสอบได้เร็วมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องอ่านหนังสือกองโตอีกต่อไป สุดท้ายนี้ สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังเตรียมสอบ TOEFL iBT อยู่ ทางเราขอให้ทุกคนได้คะแนนสอบตามที่ตั้งใจไว้กันถ้วนหน้าเลยนะคะ
คุณสามารถยกเลิกการลงทะเบียนสอบ TOEFL ได้ภายใน 4 วัน ก่อนถึงวันสอบ คุณจะได้รับเงินค่าลงทะเบียนคืนครึ่งของจำนวนเต็มที่จ่ายไป เป็นสกุลเงินดอลลาร์ การยกเลิกและการรับเงินคืน สามารถทำได้โดยผ่าน TOEFL Website และทำตามขั้นตอนตามข้อกำหนดของทาง TOEFL
ทำได้ ข้อสอบ TOEFL ออนไลน์เรียกว่า TOEFL IBT ซึ่งย่อมาจาก TOEFL internet-based test การทดสอบ TOEFL ออนไลน์บนคอมพิวเตอร์ จะวัดทักษะความสามารถทางภาษาอังกฤษ 4 ด้าน คือ การอ่าน การฟัง การพูด และการเขียน ซึ่งเป็นการสอบที่เป็นที่นิยมมาก
คุณสามารถทำได้ คุณสามารถเตรียมตัวสอบ TOEFL ได้ทุกที่ทุกเวลาตามที่คุณสะดวก ใช้เวลานานฝึกฝนตามที่คุณต้องการ และสามารถจัดการเวลาได้เอง แต่อาจมีอุปสรรคเรื่องความทุ่มเทและสมาธิของคุณเองเมื่อคุณฝึกฝนเองตามสบายที่บ้าน
คุณสามารถเตรียมตัวสอบ TOEFL ภายใน 1 สัปดาห์ได้ โดยหลักการแล้ว คุณควรมีเวลาเตรียมตัวมากกว่า 7 วัน อย่างไรก็ตาม หากคุณมีเวลาเพียง 1 สัปดาห์ คุณต้องมีวินัยและเตรียมสอบอย่างมีแบบแผน TOEFL ประกอบด้วย 4 โมดูล คือ การพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน คุณอาจจะเลือกส่วนที่เป็นจุดอ่อนของคุณมากที่สุด และเน้นไปในส่วนนั้นให้มาก
มีคนจำนวนมากมักบอกว่าระยะเวลา 1 เดือนนั้นเพียงพอต่อการเตรียมตัวสอบ อย่างไรก็ตาม ยังขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย เช่น ความสามารถทางภาษาอังกฤษของคุรในปัจจุบันดีในระดับใด และคุณต้องการคะแนนมากเพียงใด และคุณทุ่มเทกับการเตรียมตัวแค่ไหน และจะสละเวลาสำหรับการเตรียมตัวสอบแค่ไหน มีหนังสือเตรียมสอบมากมายที่คุณสามารถใช้ศึกษาได้ด้วยตัวเอง เพื่อทีจะประเมินว่าระยะเวลาการเตรียมตัว 1เดือนนั้นป็นความท้าทายที่มากไปสำหรับคุณหรือไม่
คุณสามารถสอบ TOEFL ในสหรัฐอเมริกาได้ การสอบ TOEFL นั้นสามารถสอบได้ในหลายประเทศ บางประเทศมีทั้งการสอบ TOEFL iBT และ TOEFL PBT แต่ส่วนมากแล้วจะเป็น TOEFL iBT หากคุณเป็นนักศึกษานานาชาติกำลังจะไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา คุณอาจจะต้องเตรียมยื่นผลทดสอบภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง
คุณสามารถใช้การสะกดคำแบบอเมริกันหรือการออกเสียงแบบอเมริกันในการสอบพูด IELTS ได้ และคุณยังสามารถใช้ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันในการเขียนตอบในข้อสอบการอ่านและการฟังได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม คุณควรเลือกว่าจะใช้ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันหรือแบบบริติช หากคุณใช้ทั้งสองแบบ คุณอาจถูกพักคะแนนจากการใช้ผสมกันได้
คุณสามารถได้รับทุนการศึกษาจากการสอบ TOEFL โดยอ้อมๆ แม้ว่าทางมหาวิทยาลัยจะไม่ได้ให้ทุนการศึกษาจากคะแนนสอบ TOEFL แต่ว่ามีจำนวนทุนการศึกษานานาชาติจำนวนมาก ที่พิจารณาการให้ทุนจากคะแนน TOEFL เมื่อคุณขอรับทุน
อ่านต่อ
“Chulatutor” a number one tutorial school for international programs
by Ajarn Ple and Chula CrewWe, Chulatutor, are the number one CU-TEP tutor school. 90% of our students can easily pass the test. We guarantee an easy learning class covering all basic techniques and test practices.
Sign Up for Class >Take the skyrocket to your dream within 16 days, no matter your English background will be, all your TOEIC problems will be gone with our more than 10 years TOEIC tutoring experiences.
Sign Up for Class >IELTS course at Chulatutor, we are ready to help you step over all your limitations. You will be ready to speak, listen, read and write to easily win the IELTS test.
Sign Up for Class >Take our by-pass GED course by P’ple, focus on GED contents and the latest GED tests. Students can pass the test since the first round. Complete your high school within 1 month.
Sign Up for Class >Get ready before SAT Math & Critical Reading. P’ple will help you review your background à lesson practices à review the tests.
Sign Up for Class >CU-Best course by P’ple. The course is for everyone who is interested to apply for Master Degree at Chulalongkorn University. The course focuses on basic background and test techniques We will also predict the next tests for you.
Sign Up for Class >