A-level คืออะไร สอบอะไรบ้าง ค่าสอบ และ ข้อสอบ
A-Level เป็นวิชาระดับชั้นมัธยมปลายในหลักสูตรอังกฤษ ข้อสอบ แบ่งเป็น 5 กลุ่ม คือ ภาษา , สังคมศาสตร์ , วิทย์ , คณิต , วิชาชีพ ค่าสอบ อยู่ที่ 6,226-9,190 ฿
A-Level คืออะไร
A-Level คือ หลักสูตรการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของอังกฤษ มีรายวิชาให้เลือกเรียนมากกว่า 50 วิชา โดยน้องๆสามารถเลือกได้อย่างอิสระ มีทั้งในหมวดภาษาอังกฤษ ภาษาอื่นๆ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สังคม ศิลปะ และการศึกษาทั่วไป เป็นต้น โดยปีหนึ่งจะมีการสอบ เพียง 2 ครั้ง สำหรับศูน์สอบปกติจะสอบที่ ตึก Wave Place และศูน์สอบ British Council
ข้อสอบ A level มีทั้งหมดกี่วิชา?
การสอบ A level มีทั้งหมดประมาณ 55 วิชา โดยแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มวิชา ได้แก่
- กลุ่มวิชาภาษา (Language)
- กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (Humanities & Social Science)
- กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (Science)
- กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (Mathematics)
- กลุ่มวิชาทักษะวิชาชีพ (Creative, Technical and Vocational)
ตารางสอบ A level
ใน 1 ปี มีรอบสอบทั้งหมด 2 รอบ ดังนี้
รอบสอบ | รับสมัครสอบ | วันสอบ | ประกาศผลสอบ |
รอบที่ 1 | Dec-Early Feb | May-June | August |
รอบที่ 2 | July-Early August | October-November | January |
ค่าสอบ Alevel
ค่าสมัครสอบโดยทั่วไปราคา 6,226-9,190 บาทต่อวิชา ในกรณีที่สมัครสอบล่าช้ากว่ากำหนด ผู้สอบจะต้องชำระค่าลงทะเบียนล่าช้า ซึ่งราคาจะสูงกว่านี้เล็กนิดหน่อย
สถานที่รับสมัครสอบ A-level
- โรงเรียนนานาชาติที่ใช้ระบบอังกฤษ เช่น Harrow, Shrewsbury, Bangkok Patana จะจัดสอบให้กับนักเรียนในโรงเรียนของตนเอง
- องค์กรที่เปิดสอบให้กับนักเรียนทั่วไปซึ่งได้แก่ British Council
- โรงเรียนนานาชาติ Harrow เปิดโอกาสให้นักเรียนภายนอกเข้าไปสอบได้ด้วย
สนามสอบ A-Level
- โรงเรียนนานาชาติที่ศึกษาอยู่
- British Council ใช้สนามสอบ ชั้น 8 อาคารเวฟเพลส ถนนเพลินจิต
- Harrow International School
สอบ A Level กับ AS Levels
GCE A Level หรือ General Certificate of Education (GCE) Advanced Level เป็นหลักสูตรการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของอังกฤษโดยมักจะได้เรียนและสอบในช่วง Year 12 – 13 หรือช่วงอายุ 16 – 19 ปี ซึ่งการเรียนหลักสูตร GCE A Level นี้ เป็นเหมือนกับการเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่มหาวิทยาลัย GCE A Level แบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้แก่
AS Levels (Advance Subsidiary Levels)
ส่วนใหญ่จะเรียนในระดับ Year 12 โดยปกติแล้วทางโรงเรียนจะให้นักเรียนเลือกสอบประมาณ 4 วิชา เกรดสูงสุดที่จะได้คือ A ไล่ระดับลงไปจนถึงเกรด E และเมื่อสอบผ่านในแต่ละวิชา จะได้วิชาละ 1 เครดิต (Credit) การสอบผ่านเพียงระดับ AS Levels จะถือว่าจบแค่ครึ่งหนึ่งของหลักสูตร GCE A Level เท่านั้น
A Level (Advance Levels)
โดยทั่วไปมักเรียนในระดับ Year 13 เนื้อหาที่ออกสอบจะมีความยากกว่า AS Level ซึ่งการเรียนในระดับนี้โดยส่วนใหญ่แล้วนักเรียนจะเลือกเรียนเฉพาะวิชาที่จำเป็นต้องใช้ในการเข้ามหาวิทยาลัยเพียง 3 วิชา จาก 4 วิชา ที่น้องได้สอบผ่านมาแล้วในระดับ AS Level ส่วนระดับเกรดของ A Level เกรดสูงสุดที่จะได้เลยคือ A* ไล่ระดับลงไปจนถึงเกรด E และเมื่อสอบผ่านในแต่ละวิชา จะได้วิชาละ 2 เครดิต (Credit) ค่ะ
เกรด AS Level และ A Level Grades
เกรดจะมี 4 ตัวคือ a b c d แต่การสอบทั้ง 2 วิชามีความแตกต่างกันที่ การสอบในระดับ AS Level นั้น เกรดที่ได้ต่อให้คะแนนสูงสุด คือ A แต่สำหรับการสอบ A-Level น้องมีโอกาสได้เกรดสูงสุด คือ A* แต่ไม่ว่า น้อง ๆ จะสอบระดับไหน จะมีคะแนน Percentage Uniform Mark (PUM) ซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกว่าน้องๆทำได้ดีแค่ไหนในระดับเกรดนั้นๆ
การคิดคะแนนของ A Level
- เมื่อนักเรียนทำข้อสอบเสร็จ ตัวข้อสอบจะถูกส่งไปตรวจโดย Examiner จาก Cambridge โดยที่ข้อสอบแบบ Multiple choices จะถูกตรวจโดยคอมพิวเตอร์ ส่วนข้อสอบเขียนของผู้สอบบางคนจะถูกส่งไปตรวจโดยทีม Experienced senior examiner เหตุผลที่ส่งไปเพียงบางคนนั้น เพราะทางทีมผู้ตรวจข้อสอบต้องการ set standard โดยผู้ตรวจจะตรวจข้อสอบเทียบกับ Mark Scheme เพื่อกำหนดมาตรฐานในการตรวจข้อสอบของรอบนั้นขึ้นมา
- เมื่อได้มาตรฐานการตรวจข้อสอบของปีนั้น ทีม Examiner ก็จะตรวจข้อสอบทั้งหมดเพื่อให้ได้ คะแนนดิบ (Raw Score) ของผู้เข้าสอบออกมา
- ทีมงานจะนำคะแนนดิบที่ได้ทั้งหมด รวมกับข้อมูลทางสถิติที่มี กำหนดเกณฐ์ขั้นต่ำ หรือ Grade Boundaries ที่กำหนดว่า นักเรียนต้องได้คะแนนดิบเท่าไหร่ถึงจะได้เกรด A* A B เป็นต้น ซึ่งมีหลายปัจจัยในการกำหนด Grade Boundaries นี้ ทั้งความยากง่ายของข้อสอบปีที่แล้วมา และความสามารถของผู้สอบทั้งหมดในรอบนั้น จะส่งผลทั้งหมดกับการคำนวณ Grade Boundaries ในแต่ละปี
- สุดท้ายทีม examiner จะนำคะแนนดิบของผู้เข้าสอบมาเทียบกับ Grade Boundaries แล้วออกมาเป็นเกรดในที่สุด
ติว A-Level ตัวต่อตัว!!!
หากน้องๆคนไหนกำลังกลุ้มใจและกังวลกับการเตรียมสอบหลักสูตรนี้อยู่ รู้สึกไม่มั่นใจ จะเป็นคนอ่อนภาษาหรือไม่ถนัดในรายวิชาที่จะต้องสอบ หมดกังวลได้เลยค่ะ เพราะสถาบันจุฬาติวเตอร์เรามีคอร์สเรียนสุดพิเศษที่จะช่วยให้การ เตรียมตัวสอบ A Level ของน้องๆเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม ด้วยแนวคิดอันทันสมัย “Easy to be Expert”
คอร์ส ติว A Level AS Level ตัวต่อตัว สอนกันเน้นๆ จุดอ่อนอยู่ตรงไหน ต้องพัฒนาในส่วนใด เราเชื่อได้เลยว่าแต่ละคนมีไม่เหมือนกัน จะดีกว่าไหมถ้าน้องๆได้เรียนในคอร์สที่ออกแบบมาอย่างเฉพาะตัว ไม่ว่าจะอยากเน้นการทำโจทย์เยอะๆ อยากได้ทริค เทคนิค หรืออยากจะทวนเนื้อหาใหม่ แล้วค่อยตะลุยโจทย์ก็สามารถทำได้
รอบสอบ A Level มีน้อยมาก กว่าจะแก้ตัวสอบได้ใหม่ก็ต้อรอนานเป็นครึ่งปี การสอบแต่ละครั้งจึงต้องพร้อมที่สุดและทำให้ดีที่สุดเท่านั้น เพื่อให้เราสามารถไปเรียนในระดับที่สูงขึ้นได้ ถึงเวลาก้าวข้ามขีดจำกัดการเรียนแบบเดิมๆ สู่การเรียนรูปแบบใหม่ ที่น้องๆสามารถออกแบบคอร์สเรียนได้ตามสไตล์ของเราเอง
ติวตัวต่อตัว | ||||
จำนวนนักเรียน | จำนวนชั่วโมง | |||
10 ชม. | 20 ชม. | 30 ชม. |
40 ชม. | |
1 คน | 14,000 ฿ | 22,000 ฿ | 33,000 ฿ | 44,000 ฿ |
2 คน (ประหยัดถึง 25%) |
21,000 ฿ | 33,000 ฿ | 49,500 ฿ | 66,000 ฿ |
3 คน (ประหยัดถึง 40%) |
29,680 ฿ | 39,600 ฿ | 59,400 ฿ | 79,200 ฿ |
แถมฟรี 2 ชม. | แถมฟรี 4 ชม. | |||
หมายเหตุ : คอร์สส่วนตัว ห้องเรียนส่วนตัว เรียนที่สถาบัน กับ ติวเตอร์มากประสบการณ์ สามารถเลือกวันและเวลา เรียนเองได้ |
FAQ
A-Level มีทั้งหมดกี่วิชา ?
เป็นวุฒิการศึกษาในระดับมัธยมปลาย จะมีวิชาให้เลือกประมาณ 55 วิชา โดยแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มวิชา , กลุ่มวิชาภาษา , กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ , กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ , กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ , กลุ่มวิชาทักษะวิชาชีพ
A-level มีรอบสอบบ่อยแค่ไหน และค่าสมัครสอบเท่าไหร่ ?
โดยปกติ จะมีจัดสอบปีละ 2 ครั้ง ในช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน และ ตุลาคม - พฤศจิกายน โดยหลังจากสอบเสร็จผลคะแนนจะออกในช่วงเดือนสิงหาคม และ มกราคม สำหรับค่าสมัครสอบของแต่ละวิชาจะไม่เท่ากัน ประมาณ 3,850 - 7,700 บาท
ควรเลือกเรียนวิชาอะไรดีใน A-level ?
สำหรับผู้ต้องการสอบ ควรเลือกเรียน3-4 วิชา ซึ่งวิชาที่เลือกเรียนต้องสอดคล้องกับหลักสูตร-คณะ ที่เราต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ว่าทางคณะต้องการผลคะแนนในรายวิชาใดและต้องได้คะแนนเท่าไหร่บ้าง เช่น หากต้องการสมัครเรียนในสายแพทย์ วิชาที่กำหนดสอบจะอยู่ในกลุ่มของวิทย์-คณิต