เทคนิคเตรียมตัวสอบ TOEIC grammar

ข้อสอบ TOEIC ในส่วนนี้จริงๆ ไม่ได้แบ่งแยกอย่างชัดเจนว่าเป็นพาร์ท Grammar แต่จะแฝงใน Part 5 และ Part 6 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เราเรียกว่า TOEIC Reading Comprehension (ความเข้าใจในการอ่าน)

 

TOEIC Part 5: Incomplete Sentences

ลักษณะข้อสอบ TOEIC Grammar พาร์ทนี้ ในแต่ละข้อมีประโยคหนึ่งประโยค ในประโยคนั้นจะมีเว้นช่องว่างไว้ เพื่อให้ผู้สอบเลือกคำตอบ 1 ข้อ จากทั้งหมดตัวเลือก 4 ตัวเลือกมาเติมในช่องว่างนั้นเพื่อให้ถูกต้องในแง่ของหลักไวยากรณ์หรือเหมาะสมที่สุด

ข้อสอบพาร์ทนี้จะมี 40 ข้อ รูปแบบคำถามจะทดสอบเรื่องไวยากรณ์และ คำศัพท์ ดังนั้นผู้สอบ TOEIC ควรต้องท่องศัพท์และฝึกฝนหลัก Grammar ที่สำคัญ รวมถึงฝึกฝนการทำข้อสอบ TOEIC อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำข้อสอบให้ทันเวลาสอบที่มีอยู่อย่างจำกัด

ข้อสอบ TOEIC มักจะเน้นที่เรื่องหลักๆ ซึ่งมี ผู้สอบต้องศึกษาดังต่อไปนี้

1) Parts of Speech
ผู้สอบต้องมีความสามารถในการแบ่งประเภทของคำต่างๆ โดยการดูคำลงท้าย (Prefix) ว่าเป็น คำนาม คำกริยา คำคุณศัพท์ หรือคำกริยาวิเศษณ์ แล้วนำมาเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษซึ่งในส่วนนี้ผู้สอบ TOEIC ควรมีความสามารถในการวิเคราะห์หรือแยกส่วนประกอบต่างๆ ในประโยคความเดียว ประโยคความซ้อน และประโยคซับซ้อนได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว

2) Countable + Uncountable Noun
สำหรับในส่วนนี้ผู้สอบ TOEIC จะต้องเข้าใจถึงประเภทของคำนามในภาษาอังกฤษ ที่มีทั้งคำนามนับได้ (แบ่งย่อยออกเป็น นามเอกพจน์ และนามพหูพจน์) ซึ่งแต่ละตัวนั้นมีคำนำหน้านาม (Determiner) ที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่าง เช่น a, an ใช้กับนามนับได้เอกพจน์ ส่วนนามพหูพจน์และนามนับไม่ได้ อาจจะมีหรือไม่มีคำนำหน้านามก็ได้

3) Pronouns
เป็นคำใช้เรียกแทนคำนามเพื่อเลี่ยงการพูดซ้ำ เช่น he, him, his, himself ซึ่งจะต้องรู้ว่าหน้าที่แต่ละคำนั้นใช้เมื่อไหร่ เพื่อจะได้ใช้ได้อย่างถูกต้อง

4) Prepositions
คำบอกตำแหน่งต่างๆ เช่น in, on, at, และอื่นๆ คำกลุ่มนี้ใช้แตกต่างกัน ผู้สอบจึงต้องมราบว่าเมื่อใช้กับเวลา สถานที่ คำไหนใช้ Prepositions ถึงเหมาะสมและถูกต้อง บางตัวต้องดูที่ความหมายเมื่อนำไปแปลรวมกับประโยคด้วย

5) Conjunctions
เป็นคำประเภทใช้เชื่อมคำ วลี หรืออนุประโยค เข้าด้วยกันเพื่อแสดงความสัมพันธ์ นอกจากจะทราบความหมายของแต่ลำคำแล้ว ผู้สอบ TOEIC ต้องพิจารณาถึงความสำพันธ์ในภาพรวมของประโยคด้วยว่าใจความของประโยคนั้นแสดงสอดคล้องความคล้อยตามกัน หรือขัดแย้งกัน เป็นเหตุเป็นผลกัน หรือแสดงทางเลือก จึงจะสามารถเลือกคำตอบได้อย่างถูกต้อง

 

TOEIC Grammar Practice

ที่กล่าวไปเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของหลักแกรมมาร์ที่ผู้สอบ TOEIC ควรรู้ในขั้นต้นเท่านั้น เพราะนอกจากนี้ยังมีพวกกลุ่มคำ Gerunds or Infinitives, Verbs ต่างๆ, รูปแบบประโยค active และ passive, ประโยคเงื่อนไข (If-clause), การเปรียบเทียบ (Comparisons) และอื่นๆ ทีต้องศึกษาเพิ่มเติม สำหรับคนไหนที่อยากจะลองทำ ตัวอย่างข้อสอบ สามารถเข้าไปได้ที่ toeic grammar test online ทางสถาบันได้รวบรวมแนวข้อสอบไว้ทำแล้ว

grammar

TOEIC Part 6: Text Incompletion

ลักษณะข้อสอบ TOEIC พาร์ทนี้เป็นการเติมคำในช่องว่าง มีทั้งหมด 12 ข้อจาก ซึ่งมาในรูปแบบของจดหมายทางธุรกิจเสียเป็นส่วนใหญ่ บางครั้งมีจดหมาย, ประกาศ, โฆษณา, บทความทางธุรกิจ, จดหมายรับรอง ฯลฯ ทั้งหมด 4 ฉบับ ฉบับละ 3 ข้อ แต่ละข้อมี 4 ตัวเลือก ซึ่งมีทั้งถามไวยากรณ์และถามคำศัพท์

ด้วยเหตุนี้ข้อสอบพาร์ทนี้จึงแตกต่างจากพาร์ท 5 เล็กน้อย กล่าวคือผู้สอบต้องเข้าใจวัตถุประสงค์หลักของจดหมายหรือบทความนั้นว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร เพราะแต่ละข้อจะเชื่อมโยงกัน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจรายละเอียดอย่างถี่ถ้วนนัก เพราะบางข้ออาจไม่จำเป็นต้องดูเนื้อหาทั้งหมด จึงสรุปได้ว่าข้อสอบพาร์ทนี้ไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งหมด หรืออ่านแค่คร่าวๆ ก็เพียงพอ

ถึงแม้ไม่มีกำหนดเวลาทำในแต่ละพาร์ทของข้อสอบโทอิคในส่วนความเข้าใจในการอ่าน (Reading Comprehension) ก็ตาม แต่ข้อสอบพาร์ท 5 (40 ข้อ ข้อ 100-140) เมื่อรวมกับ พาร์ท 6 (12 ข้อ ข้อ 141-152) รวมทั้งหมด 52 ข้อ ผู้สอบควรทำให้เสร็จภายใน 25 นาที หรือคร่าวๆ 1 นาที ควรทำได้ 2 ข้อ ถึงจะลงตัวและทำให้มีเวลาเหลือเพียงพอที่จะไปทบในส่วนของการอ่านบทความได้เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ ส่วนมากปัญหาของผู้สอบ TOEIC ทำพาร์ทนี้ได้คะแนนไม่สูงมากนั้น เพราะผู้สอบโทอิคอาจฝึกทำแบบฝึกหัดไม่เพียงพอ ทำให้ไม่มีความแม่นยำในการแยกประโยค และมองโครงสร้างประโยคผิดเพี้ยนไป อันจะนำให้ผู้สอบตอบคำถามผิดในที่สุด แล้วหากถามว่าต้องฝึกทำข้อสอบกี่ชุดถึงจะเพียงพอ คิดว่าขั้นต่ำน่าจะอยู่ราวๆ ที่ 15 -20 ชุดขึ้นไป

เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับผู้สอบจนกลายเป็นทักษะในการสอบ TOEIC และสามารถเพิ่มความเร็วในการทำเพื่อเป็นการฝึกบริหารเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด หากได้ฝึกทำบ่อยๆ จะพบว่ารูปแบบประโยค โครงสร้างของประโยค คำศัพท์ที่ใช้ ก็มักเป็นคำศัพท์ในกลุ่มเดิมๆ เมื่อได้ฝึกฝนจนชินแล้วจะพบว่าผู้สอบ TOEIC ได้ใช้เวลาลดลงไปจากการฝึกทำข้อสอบโทอิคในครั้งแรกๆ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า พาร์ท 5 และ พาร์ท 6 ซึ่งล้วนแล้วแต่ไม่ได้มีเฉพาะคำถามประเภท Grammar เพียงอย่างเดียว หากแต่รวมถึงโจทย์ข้อที่เป็นคำศัพท์ที่ผู้สอบ TOEIC จะต้องมีพื้นฐานคำศัพท์เยอะพอสมควรด้วย

 

สำหรับคนไหนที่กำลังจะสอบ TOEIC ทางสถาบันมี คอร์สติว TOEIC Online รับรองผล สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://course.chulatutor.com/p/toeic-online

Scroll to Top