ข้อสอบ TOEFL Writing ประเภท Internet Base Testing (iBT) คือ ข้อสอบพาร์ทการเขียนของการสอบ TOEFL (iBT) ซึ่งเป็นพาร์ทที่หลายๆคนกังวลมาก เนื่องจากปกติแล้ว การทำข้อสอบพาร์ทที่เกี่ยวกับการเขียนต่างก็มีรายละเอียดให้ระมัดระวังค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไวยกรณ์ (Grammar) คำศัพท์ที่ใช้ การเรียบเรียง ไอเดียในการเขียน และอื่นๆ แต่การเขียนของข้อสอบ TOEFL (iBT) มีสิ่งที่ต้องระมัดระวังและต้องเตรียมตัวเยอะกว่านั้น บอกได้คำเดียวว่าเป็นข้อสอบที่ไม่ธรรมดา วันนี้เราจะมารู้จักข้อสอบ TOEFL Writing ประเภท iBT ให้มากขึ้นกันค่ะ
ข้อสอบพาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่ใช้พลังในการทำข้อสอบเยอะ แต่กลับเป็นสุดท้ายของการทำข้อสอบ TOEFL (iBT) โดยเราจะมีเวลาในการทำข้อสอบประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งอย่างที่เราเกริ่นกันไว้ตอนแรกว่า ข้อสอบพาร์ทนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ นั่นก็เป็นเพราะว่า ข้อสอบ TOEFL Writing ประเภท iBT ต้องใช้ทักษะอื่นร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นทักษะการฟัง (Listening) และทักษะการอ่าน (Reading) ดังนั้น การจะทำคะแนนในพาร์ทการเขียนให้ดี จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ความสามารถในการเขียนอย่างเดียวอีกต่อไป ตัวข้อสอบในพาร์ทนี้จะประกอบไปด้วยข้อคำถาม 2 ข้อ คือ
คะแนนเต็มของข้อสอบในพาร์ทการเขียนนี้ จะมีคะแนนเต็ม 30 คะแนน เช่นเดียวกับพาร์ทอื่นๆ โดยคะแนนจะมาจากกรรมการผู้ตรวจข้อสอบ 2 คน แต่ละคนจะมีคะแนน 1-5 คะแนนอยู่ในมือ จากนั้นจะนำคะแนนของทั้งสองข้อมารวมกัน แล้วปรับให้เป็นระบบคะแนนเต็ม 30 คะแนนเป็นลำดับต่อไป นอกจากนี้คะแนนรวมยัง สามารถนำมาแบ่งเป็นเกณฑ์ได้ 5 ระดับ ดังนี้
และหลายๆคนเองก็อาจจะสงสัยว่า คะแนนต่างๆพิจารณาจากอะไรบ้าง ซึ่งบอกได้เลยค่ะว่ามาจากหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น
ก่อนอื่นเลยคือ เราต้องเริ่มจากการทบทวนพื้นฐานของตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องไวยกรณ์ภาษาอังกฤษที่จะผิดไม่ได้ เนื่องจากจะดึงดูดการตัดคะแนนได้ง่ายมากๆ ฝึกแต่งประโยคไปจนถึงฝึกเขียนให้ยาวขึ้นจนถึงในระดับที่ข้อสอบต้องการ และที่สำคัญคือ ต้องฝึกใช้คีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์ให้มากที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความคุ้นเคย ตัวไหนอู่ตำแหน่งอะไรเราต้องรู้ไปก่อน ยิ่งสามารถพิมพ์ได้คล่องและเร็วเท่าไหร่เราก็จะทำข้อสอบได้เร็วมากเท่านั้น คุณลองนึกดูว่า หากในหัวเราคิดคำตอบได้มากมาย แต่มือกลับพิมพ์ไม่ค่อยไป มัวแต่หาว่าตัวอักษรที่ต้องการอยู่ตรงไหน คงจะทำไม่ทันเวลาเป็นแน่ ดังนั้น เมื่อเขียนเก่งแล้ว ก็อย่าลืมเรื่องความเร็วในการทำข้อสอบด้วย ส่วนสิ่งสำคัญสุดท้ายคือ อย่าทิ้งทักษะการอ่านและการฟัง เพราะนั่นจะมีผลกับการทำคะแนนในพาร์ทการเขียนนี้อย่างแน่นอน
อย่างที่เราได้รู้กันไปแล้วว่าข้อสอบ TOEFL Writing นั้นมีคำถามในลักษณะใด กล่าวคือ เมื่ออยู่ในรูปแบบของข้อสอบแล้ว ลักษณะโจทย์จะเป็นดังนี้ค่ะ
เทคนิคการทำข้อสอบที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือ การบริหารเวลาในระหว่างการทำข้อสอบพาร์ทนี้อยู่นั่นเองค่ะ จริงอยู่ที่ว่าเรื่องไวยกรณ์หรือ Grammar ต่างๆนั้นมีผลกับคะแนนเรามากๆ แต่เมื่ออยู่ในห้องสอบแล้วเราไม่ควรกังวลกับพาร์ทนี้จนลืมคำนึงถึงสิ่งอื่น ดังนั้น ให้เราเขียนตอบให้ครบทุกประเด็นไปก่อนแล้วแบ่งเวลามาตรวจ Grammar หรือปรับรูปแบบประโยคอีกครั้ง การทำแบบนี้จะช่วยให้เสร็จทันเวลาได้ดีกว่า และหากเป็นการเขียนในข้อแรก แนะนำให้โน้ตข้อมูลสั้นๆ ไม่ต้องเก็บรายละเอียดทุกคำ
สำหรับใครที่ฝึกทำข้อสอบ TOEFL Writing ด้วยวิธีการเขียนมาโดยตลอด ต้องไม่ลืมที่จะฝึกการทำข้อสอบผ่านคอมพิวเตอร์เพื่อให้คุ้นชินทั้งรูปแบบข้อสอบและการใช้แป้นพิมพ์/คีย์บอร์ด เพราะหากเราไม่ชำนาญในสิ่งเหล่านี้แล้ว อาจจะต้องเจอกับปัญหาการทำข้อสอบไม่ทันได้ง่ายๆเลยล่ะค่ะ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำช่องทางการเข้าไปฝึกทำข้อสอบ TOEFL Writing ที่บอกได้เลยว่าเสมือนจริงมากๆค่า วิธีการก็ง่ายมากๆ เพียงแค่เราเข้าเว็บไซต์ของ ETS ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการของข้อสอบ TOEFL (iBT) จากนั้นให้คลิกเมนู “Free Practice Test” และ ““Launch the TOEFL iBT Free Practice Test” เว็บไซต์ก็จะนำเรามาสู่โปรแกรมการทำข้อสอบ ซึ่งโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมจำลองที่รวมไว้ทุกพาร์ท หากเป็นพาร์ท Writing จะมีตัวอย่าง ดังนี้