TOEFL speaking
ข้อสอบ TOEFL Speaking ประเภท Internet Base Testing (iBT) คือ ข้อสอบที่ทดสอบทักษะการพูดของการสอบ TOEFL (iBT) ซึ่งถือว่าต้องใช้สมาธิสูงมากๆ เพราะเป็นการสอบในห้องห้องหนึ่ง ที่ทุกคนจะต้องพูดใส่ไมโครโฟนเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำการบันทึกเสียง และเมื่อต้องพูดพร้อมๆกันหรือพูดในเวลาไล่เลี่ยกัน เสียงรอบข้างที่ต่างคนต่างพูดอาจจะทำให้เราเสียสมาธิได้หากเราไม่โฟกัสมากพอ และแน่นอนว่าหากพลาดหรือสมาธิหลุดไปแล้ว โอกาสที่จะทำคะแนนในพาร์ทนี้ก็จะลดลง ดังนั้น เพื่อให้เราลงสนามสอบได้อย่างมั่นใจและพร้อมมากขึ้น วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับข้อสอบพาร์ทการพูดของ TOEFL (iBT) กันให้ละเอียดมากขึ้นค่ะ
ข้อสอบ TOEFL Speaking เป็นพาร์ทที่ต้องรวบรวมความสามารถในการพูด ในการสื่อสารออกมาอย่างเต็มศักยภาพ ในพาร์ทการพูดจะมีคำถามทั้งหมด 6 ข้อ ให้เวลาในการทำข้อสอบทั้งหมด 20 นาที ซึ่งแต่ละข้อนั้นก็จะมีลักษณะคำถามที่แกต่างกันออกไป ดังนี้
สำหรับการสอบ TOEFL Speaking จะมีคะแนนเต็มทั้งหมด 30 คะแนน โดยการพิจารณาคะแนนจะมาจากคณะกรรมการ 2 คน แต่ละคนมีคะแนน 1-4 คะแนน จากนั้นจะนำคะแนนของทั้งสองคนมารวมกัน และนำคะแนนของทุกข้อรวมเข้าด้วยกัน ทำการแปลผลออกมาเป็นระบบ 30 คะแนนเต็ม ซึ่งเกณฑ์ที่ใช้พิจารณ็มีอยู่หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นความคล่องแคล่วในการพูด ความชัดเจน เข้าใจได้ง่าย การถ่ายทอดข้อมูลได้ต่อเนื่องเป็นลำดับ มีเหตุผลรองรับ และการกล่าวถึงแหล่งที่มาของข้อมูล สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลกับการให้คะแนนทั้งสิ้น นอกจากนี้คะแนนรวมยัง สามารถนำมาแบ่งเป็นเกณฑ์ได้ 5 ระดับ ดังนี้
การจะทำข้อสอบ TOEFL Speaking ให้ได้คะแนนสูงๆ เราต้องเตรียมตัวเป็นอย่างดีค่ะ เพราะอย่างที่เราเคยบอกว่า ในห้องสอบนั้นมีปัจจัยหลายอย่างที่พร้อมจะทำลายสมาธิเราได้เสมอ ดังนั้น เราต้องมีทักษะการพูดและสมาธิที่ดี เพื่อลดโอกาสที่จะเจอกับปัญหาในลักษณะดังกล่าว หากใครที่ยังไม่รู้จะเตรียมตัวยังไง ลองทำตามคำแนะนำเล็กๆน้อยๆ แล้วนำไปฝึกต่อยอดได้เลยค่ะ
อย่างที่เราได้ทราบกันไปแล้วว่า คำถามของ TOEFL Speaking นี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 6 ข้อ แต่ละข้อจะมีคำถามต่างกันออกไป ตัวอย่างคำถามที่เรามักเจอก็จะเป็นไปในแนวที่เราพูดลึกลักษณะข้อสอบเลยค่ะ เช่น
สิ่งแรกเลยคือ ต้องทำสมาธิให้ดีที่สุดและพยายามอย่าสนใจคำตอบของคนรอบข้าง เมื่อเข้าสู่ข้อคำถามที่ต้องฟังบรรยายหรืออ่านบทความ พยายามโน้ตข้อมูลที่สำคัญไว้ เพราะหากไม่โน้ตไว้เลย หรือพยายามโน้ตทุกอย่างลงไป จะทำให้ตอนที่เราต้องพูด เราจะไม่สามารถใช้ข้อมูลนั้นได้อย่างเต็มที่
ความท้าทายของการทำข้อสอบพาร์ทนี้คือ เรามีเวลาเตรียมตัวก่อนพูดน้อยมาก เราอาจจะต้องฝึกบริหารเวลาว่าในเวลาประมาณนี้ เราควรจะนึกถึงประเด็นใดบ้าง และบริหารเวลาที่ให้ตอบคำถามด้วย บางคนึกไม่ออก ไม่รู้จะพูดอะไรจนทำให้เวลาเหลือ หรือบางคนพูดเยอะเกินไปจนเวลาไม่พอ ดังนั้น วิธีการที่อยากแนะนำคือ ควรจะพูดถึงใจความหลักๆไว้ก่อน รีบเข้าเรื่องให้ไว และสรุปให้ครบประเด็น และสิ่งสุดท้ายคือ ต้องไม่กังวลเรื่องสำเนียงมาก เพราะอย่างที่บอกคือ สำเนียงไม่ได้มีผลต่อคะแนนมากนัก แค่พูดด้วยการออกเสียงที่ถูกต้องและชัดเจนก็เพียงพอแล้วค่ะ
สำหรับใครที่ต้องการฝึกพาร์ท Speaking ของ TOEFL iBT หากได้ฝึกในโปรแกรมที่คล้ายกับสนามสอบจริงได้ ก็น่าจะดีกว่าการฝึกพูดคนเดียวเป็นไหนๆ ใครที่ลองซ้อมพูดจนมั่นใจแล้ว แล้วอยากจะลองฝึกผ่านโปรแกรมเสมือนจริงดู สามารถเข้าไปฝึกกันได้ที่เว็บไซต์ของ ETS ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการของข้อสอบ TOEFL โดยตรง เมื่อเราเข้าไปแล้วให้เรามองหาเมนูที่ชื่อว่า “Free Practice Test” และ “Launch the TOEFL iBT Free Practice Test” เราก็จะเห็นโปรแกรมการฝึกทำข้อสอบ ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวจะรวมให้เราฝึกได้ทุกพาร์ท โดยตัวอย่างของพาร์ท Speaking เป็นดังนี้