การสอบ TOEIC คืออะไร
Test of English for International Communication หรือ TOEIC คือ ข้อสอบทดสอบภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงาน โดยข้อสอบมี 2 พาร์ท คือ Listening 100 ข้อ และ Reading 100 ข้อ รวมข้อสอบมีทั้งหมด 200 ข้อ คะแนนเต็ม 990 คะแนน
Table of Contents
ข้อสอบ TOEIC มี 2 พาร์ท Listening - Reading
ข้อสอบ TOEIC ประกอบไปด้วย พาร์ทการฟัง (Listening) 100 ข้อ และพาร์ทการอ่าน (Reading) 100 ข้อ รวมทั้งหมด 200 ข้อ ข้อสอบเป็นแบบเลือกตอบทั้งหมด ซึ่งมีเนื้อหาการสอบ ดังนี้
ทำความเข้าใจ ข้อสอบ TOEIC Listening Test และวิธีเตรียมตัวสอบ
หรือพาร์ทการฟัง จะมีข้อสอบแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ
Part 1 Photographs จำนวน 6 ข้อ
Part 2 Question-Response จำนวน 25 ข้อ
Part 3 Conversations จำนวน 39 ข้อ
Part 4 Short Talks จำนวน 30 ข้อ
ข้อสอบ Listening ให้เวลาทำข้อสอบทั้งหมด 45 นาที
ทำความเข้าใจ ข้อสอบ TOEIC Reading Test และวิธีเตรียมตัวสอบ
หรือพาร์ทการอ่าน จะมีข้อสอบแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะข้อสอบส่วนที่เป็นการอ่านเท่านั้น แต่ในพาร์ทนี้ยังมีข้อสอบส่วนที่เป็น Grammar ด้วย ได้แก่
Part 5 Incomplete Sentences จำนวน 30 ข้อ
Part 6 Text Completion จำนวน 16 ข้อ
Part 7 Reading Comprehension จำนวน 54 ข้อ
ข้อสอบ Reading ให้เวลาทำข้อสอบทั้งหมด 75 นาที
การสอบ TOEIC แบบนี้เราเรียกว่า TOEIC Listening and Reading Test และในขณะเดียวกัน TOEIC ก็มีสอบการเขียนและการพูดด้วย แต่จะเป็นการจัดสอบที่แยกออกไป โดยเราเรียกข้อสอบดังกล่าวว่า TOEIC Speaking and Writing Test ซึ่งจะใช้คะแนนสอบนี้เฉพาะในบางกรณีเท่านั้น จึงทำให้เมื่อเราพูดถึง TOEIC ก็มักจะหมายถึง TOEIC Listening and Reading Test ไปโดยปริยาย
TOEIC คะแนนเต็ม 990 คะแนน
TOEIC คะแนนเต็ม 990 คะแนน
โดยแบ่งเป็นคะแนนจากพาร์ทการฟัง (Listening) 495 คะแนน และจากพาร์ทการอ่าน (Reading) 495 คะแนน
สำหรับคนที่สอบวันจันทร์ – พฤหัสบดี สามารถติดต่อรับผลคะแนนในวันถัดไปที่ศูนย์สอบได้เลย
แต่หากสอบวันศุกร์หรือวันเสาร์ สามารถติดต่อรับผลคะแนนได้ในวันอังคารเป็นต้นไป
แต่หากใครไม่สะดวกรับผลคะแนนที่ศูนย์สอบโดยตรง ก็สามารถแจ้งความประสงค์ให้ส่งคะแนนไปทางไปรษณีย์ได้
เกณฑ์ของคะแนน TOEIC ที่ดีและวิธีการเพิ่มคะแนน
คะแนน TOEIC จะไม่มีเกณฑ์ตายตัวว่าต้องสอบได้คะแนนเท่าไหร่จึงจะถือว่าสอบผ่าน แต่จะขึ้นอยู่กับว่าบริษัทหรือหน่วยงานต่าง ๆ ได้กำหนดเกณฑ์คะแนน TOEIC ไว้เท่าไหร่ ยิ่งลักษณะงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเยอะแนวโน้มคะแนน TOEIC ที่จะขอก็มักสูงตามไปด้วย หากเราสามารถสอบได้คะแนนถึงตามเกณฑ์หรือมากกว่าเกณฑ์ที่หน่วยงานนั้น ๆ ต้องการ ก็จะถือว่าเราสามารถนำคะแนนไปใช้ยื่นได้แล้ว
ขั้นตอนการจองที่นั่งสอบ TOEIC
1. ผู้สมัครสอบต้องจองสอบล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ก่อนทำการสอบ โดยสามารถสอบถามได้ที่ Call Center ในวันทำการ วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 08.00 – 16.30 น. (ไม่รับจองสอบทาง Email)
– ศูนย์สอบกรุงเทพฯ : 0-2260-7061, 0-2259-3990 ต่อ 101 หรือ ต่อ 603 สำหรับภาษาอังกฤษ
– ศูนย์สอบเชียงใหม่ : 0-5324-1273 ถึง 5
2. การเลื่อนสอบ หรือ ยกเลิกสอบ
กรณีต้องการเลื่อนสอบ หรือ ยกเลิกสอบ ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันก่อนวันสอบ หากเลื่อนหรือยกเลิกสอบในวันสอบ จะมีค่าธรรมเนียม (ค่าปรับ) 2,000 บาท ซึ่งจะรวมกับค่าสอบในครั้งถัดไป
3. กรณีต้องการสอบครั้งถัดไป
จะต้องเว้นสอบ 5 วันหลังสอบครั้งล่าสุด
4. การรายงานตัวในวันสอบ
ผู้สอบจะต้องรายตัวก่อนสอบ 1 ชั่วโมง
5. หลักฐานที่ในวันสอบ
บัตรประจำตัวประชาชนไทย หรือ ใบขับขี่สมาร์ตการ์ดไทย (บัตรแข็ง) หรือ หนังสือเดินทางไทย (Passport)
Update ค่าสอบ TOEIC 2,000 บาท
ค่าสอบ 2,000 บาท
ตารางสอบ TOEIC Test 2567
ศูนย์สอบ TOEIC กรุงเทพฯ และ ศูนย์สอบเชียงใหม่ จะเปิดสอบ ทุกวันจันทร์ ถึง เสาร์ แบ่งเป็น 2 รอบคือ รอบเช้า 9.00 น. และรอบบ่าย 13.00 น.
ศูนย์สอบ TOEIC Test ที่ตั้งและข้อมูลที่ควรรู้
ศูนย์สอบ TOEIC กรุงเทพ ที่ตั้งและข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
อยู่ที่ อาคาร BB Building (Bangkok Business Building) ชั้น 19 ห้อง 1907 ถนนอโศกมนตรี (ซอยสุขุมวิท 21) กรุงเทพ 10110
ศูนย์สอบ TOEIC ต่างจังหวัด ที่ตั้งและข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
อยู่ที่ ชั้น 3 อาคารนวรัตน์ 4/6 ถนนแก้วนวรัตน์ ซอย 3 เชียงใหม่ 50000
Review คอร์สเรียน TOEIC จากประสบการณ์นักเรียนโดยตรง
เรื่องที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการสอบ TOEIC
TOEIC Reading Part 5–6 เน้นไวยากรณ์ขั้นสูง ทำให้ยากมาก
TOEIC เน้นไวยากรณ์พื้นฐาน–ระดับกลาง ที่ใช้จริงในการทำงาน
ข้อสอบ Part 5 และ Part 6 ทดสอบเรื่องที่จำเป็นต่อการสื่อสารจริง
ฝึกจากข้อสอบ TOEIC แบบเก่า (ก่อนปี 2018) ก็พอแล้ว เพราะง่ายกว่า
TOEIC รูปแบบใหม่ต่างจากรูปแบบเก่าอย่างชัดเจน New TOEIC (หลังปี 2018) อัปเดตเพื่อให้เหมือนการสื่อสารยุคปัจจุบันมากขึ้น ควรฝึก New Format เพื่อทำคะแนนสูงในสนามสอบจริง
TOEIC Listening Part 1 แค่จับคีย์เวิร์ดกับภาพก็พอ ไม่ต้องเข้าใจประโยคทั้งหมด
TOEIC ใหม่ใช้ Decoy/Trap เยอะ ต้องเข้าใจทั้งประโยค เพราะข้อสอบมักคำที่คล้ายกันมาก แต่ความหมายไม่ตรง , เสียงที่ออกเหมือนคำในภาพ แต่ความหมายไม่เกี่ยว เพราะฉะนั้นผู้สอบควร “เข้าใจความหมายทั้งประโยค” ถึงทำคะแนนได้ดี
FAQ TOEIC – รวมคำถามยอดฮิตเรียน TOEIC กับ CHULATUTOR
ทำไมต้องเรียน TOEIC กับ CHULATUTOR ?
คอร์ส TOEIC ของ CHULATUTOR ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน TOEIC โดยตรง เน้นสอนตรงแนวข้อสอบจริงและอัปเดตเนื้อหาตามรอบสอบล่าสุด สอนตั้งแต่พื้นฐานจนถึงตะลุยโจทย์ พร้อมเทคนิคและกลยุทธ์เพิ่มคะแนนอย่างเป็นระบบ เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ที่ต้องการทำคะแนนสูง จุดเด่นคือ ครูพี่เกด ติวเตอร์ชื่อดังจาก YouTube ที่มียอดผู้ชมกว่า 1 ล้านวิว สอนสนุก เข้าใจง่าย และเห็นผลจริง อีกทั้งยังมี Mock Test เสมือนจริง ให้ฝึกซ้อมก่อนสอบ และ คอร์สรับรองผล ที่การันตีคะแนนและความสำเร็จของผู้เรียนทุกคน
เรียน TOEIC ที่ CHULATUTOR มีรูปแบบไหนบ้าง ?
สอนสด (Hybrid) / เรียนออนไลน์ / Private (ตัวต่อตัวหรือกลุ่มเล็ก) / พร้อมการบ้าน
คอร์ส TOEIC ที่ CHULATUTOR โดดเด่นพาร์ทใดบ้าง ?
Listening , Reading
คอร์สเรียน TOEIC กับ CHULATUTOR ราคาเท่าไหร่ ?
ราคาเริ่มต้นเพียง 990 บาท สำหรับคอร์สออนไลน์
และมีคอร์สกลุ่มย่อยและคอร์สตัวต่อตัวให้เลือกหลายระดับ โดยค่าเรียนแตกต่างกันตามรูปแบบการเรียน