MBA MU มหาวิทยาลัยมหิดล
เมื่อเอ่ยถึงชื่อของมหาวิทยาลัยมหิดล ส่วนใหญ่มักนึกถึงการเรียนด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์ พยาบาล ทว่าจริง ๆ แล้วในระดับปริญญาโทหรือบัณฑิตศึกษาก็มี MBA MU อยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นของวิทยาลัยนานาชาติ สาขาวิชาการสร้างตัวแบบและการพัฒนาธุรกิจ หลักสูตรนานาชาติ เนื้อหาส่วนใหญ่ที่เรียนจะเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ธุรกิจ เพื่อให้นำไปใช้ได้จริงเมื่อสำเร็จการศึกษา และไม่ใช่แค่การได้เนื้อหาความรู้จากอาจารย์ผู้สอนเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิด ทัศนคติ และแนวคิดใหม่ ๆ จากเพื่อนร่วมชั้นเรียนด้วย ปกติแล้วจะแบ่งหลักสูตรออกเป็น 2 แบบ คือ
- MBA MU หลักสูตร ก แบบ ก2 เป็นรูปแบบการเรียนที่ต้องมีการทำวิทยานิพนธ์ ผู้เรียนต้องผ่านหน่วยกิตรวมไม่ต่ำกว่า 45 หน่วยกิต ทั้งนี้หมวดวิชาปรับพื้นฐานจะไม่มีการระบุหน่วยกิต
- MBA MU หลักสูตร ข เป็นรูปแบบการเรียนที่ต้องมีการทำสารนิพนธ์ ผู้เรียนต้องผ่านหน่วยกิตรวมไม่ต่ำกว่า 45 หน่วยกิต ทั้งนี้หมวดวิชาปรับพื้นฐานจะไม่มีการระบุหน่วยกิต
การเรียน MBA MU นั้นจะใช้หลักสูตรภาษาอังกฤษทั้งหมด เท่ากับว่าผู้ที่คิดจะสมัครต้องมีพื้นฐานและมีความรู้ทั้งด้านบริหารธุรกิจเบื้องต้นและความรู้ด้านภาษาอังกฤษพอสมควร ซึ่งแนวทางในการสอนจะมีความหลากหลายมาก ๆ นอกจากอาจารย์ที่สอนด้านทฤษฎีในห้องเรียน ก็ยังมีการค้นคว้าหาความรู้นอกห้อง, การตั้งกรณีศึกษาเพื่อให้คิด วิเคราะห์เรื่องราวต่าง ๆ ออกมาตามที่กำหนด, การนำเอาบุคคลภายนอกซึ่งบุคคลที่ว่านี้เป็นผู้ประสบความสำเร็จในด้านอาชีพการงานมาแนะนำสิ่งดี ๆ เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม อาชีพที่น่าสนเมื่อเรียน MBA MU จบแล้วก็มีหลากหลาย โดยเฉพาะคนที่ต้องการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นกว่าเดิม หรือแม้การประกอบธุรกิจส่วนตัวก็มีโอกาสเติบโตขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ซึ่งอาชีพที่แนะนำ เช่น
- ตำแหน่งผู้จัดการทั้งหน่วยงานในประเทศและต่างประเทศ
- นักวิเคราะห์ขององค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคเอกชนที่ต้องการคนมาช่วยวิเคราะห์ทำธุรกิจ
- ตำแหน่งงานด้านการวิจัย หรือ ด้านข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน
- ตำแหน่งที่ทำให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรทั้งระดับในประเทศและต่างประเทศ
- ที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์ เพื่อพัฒนาศักยภาพองค์กรให้แข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม
- นักพัฒนาธุรกิจ มีความเชี่ยวชาญในการนำเสนอสิ่งดี ๆ เพื่อให้ธุรกิจก้าวเดินต่อไป
- ประกอบธุรกิจส่วนตัวหลายสไตล์ ขึ้นอยู่กับความถนัดของตนเองเป็นหลัก
- เจ้าหน้าที่ระดับสูงในภาครัฐ หรือ บรรดาเจ้าหน้าที่พนักงานรัฐวิสาหกิจ
อีกความโดดเด่นสำหรับคนที่เลือกเรียน MBA MU คือ ทางสถาบันได้มีการทำข้อตกลงเพื่อแลกเปลี่ยนตัวนักศึกษากับบรรดาสถาบันชื่อดังระดับโลก หลายประเทศทั้งแถบอเมริกาเหนือ, ยุโรป, ออสเตรเลีย, เอเชีย นั่นเท่ากับว่าผู้เรียนอาจได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนเพื่อหาประสบการณ์ให้กับตนเองมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ใครที่สนใจบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาดเพราะนี่คือโอกาสอันดีไม่ใช่แค่การเรียนเท่านั้น แต่ยังได้ฝึกภาษา การทำความเข้าใจกับเรื่องของธุรกิจให้มากขึ้นกว่าเดิม
สมัครเรียน MBA MU ทำอย่างไร
หากมีความสนใจและอยากสมัครเรียน MBA MU ก็มีขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดโดยขอไล่เรียงเพื่อให้ทำตามกันแบบเข้าใจง่าย แต่ทั้งนี้ต้องมีการเตรียมตนเองให้พร้อมอยู่เสมอ เพราะเมื่อสมัครแล้วจะเข้าสู่ขั้นตอนอื่น ๆ ที่ทางสถาบันกำหนดต่อไป
- เข้าไปยังเว็บไซต์ https://graduate.mahidol.ac.th/
- เลือกแถบด้านบน “รับสมัคร” เพื่อไปสู่หน้าการสมัครเรียน
- เลือกหลักสูตรที่เปิดรับสมัคร
- เลื่อนหาหลักสูตร MBA MU จากนั้นให้คลิกเข้าไปได้เลย
- ทำการกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน และทำตามขั้นตอนอื่น ๆ ที่ทางสถาบันระบุเอาไว้
เท่านี้การสมัคร MBA MU ก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก หากมีคำถามหรือข้อสงสัยใด ๆ สามารถติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย
คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา MBA MU
อย่างไรก็ตามก่อนการสมัครเข้าเรียนแนะนำว่าให้ตรวจคุณสมบัติของตนเองให้เรียบร้อย เพื่อเวลาสมัครแล้วจะได้ผ่านง่ายมากขึ้น ไม่ต้องแก้ไขหรือต้องทำเรื่องบางอย่างให้ยุ่งยาก เสียเวลาการสมัครโดยใช่เหตุ ทั้งนี้จะขอแบ่งคุณสมบัติคือ
- คนมีประสบการณ์ทำงาน
จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า จากสถาบันที่รับรองโดย ก.พ. หรือทบวงมหาวิทยาลัย
ไม่จำกัดสาขาที่จบ
คะแนนเฉลี่ยรวมทั้งหมดในระดับปริญญาตรีต้องไม่ต่ำกว่า 2.50
มีผลคะแนน TOEFL ไม่น้อยกว่า 550 คะแนน / คะแนน IELTS ไม่น้อยกว่าระดับ 6 หรือคะแนนผลการทดสอบภาษาอังกฤษอื่น ๆ ที่ผ่านการยอมรับ
หนังสือรับรองจากบุคคลไม่เกี่ยวข้อง ซึ่ง 1 ในนั้นต้องมาจากหัวหน้างานหรือผู้บังคับบัญชา
มีการทดสอบข้อเขียน - คนไม่มีประสบการณ์ทำงาน
จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า จากสถาบันที่รับรองโดย ก.พ. หรือทบวงมหาวิทยาลัย
ไม่จำกัดสาขาที่จบ
คะแนนเฉลี่ยรวมทั้งหมดในระดับปริญญาตรีต้องไม่ต่ำกว่า 3.00
มีผลคะแนน TOEFL ไม่น้อยกว่า 550 คะแนน / คะแนน IELTS ไม่น้อยกว่าระดับ 6 หรือคะแนนผลการทดสอบภาษาอังกฤษอื่น ๆ ที่ผ่านการยอมรับ
หนังสือรับรอง 2 ฉบับจากอาจารย์ที่ปรึกษา
มีการทดสอบข้อเขียน
ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร MBA MU
ปิดท้ายกันด้วยเรื่องค่าใช้จ่ายซึ่งถือว่าสำคัญ เพราะคนที่จะเข้าเรียน MBA MU ควรมีการพิจารณาก่อนถึงความพร้อมของตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจนต้องเสียโอกาสในการเรียนโดยใช่เหตุ ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายจะแบ่งออกตามหลักสูตรที่เข้าศึกษา คือ
- หลักสูตร ก แบบ ก2 ค่าใช้จ่ายตลอดการศึกษาราว 202,400 บาท
- หลักสูตร ข ค่าใช้จ่ายตลอดการศึกษาราว 199,400 บาท
ใครที่สนใจหรืออยากเข้ามาสมัครเรียนต่อ MBA MU ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดีมาก ๆ ได้ความรู้เข้มข้นกลับไป พร้อมสนุกไปกับกรณีศึกษาต่าง ๆ พร้อมภาษาอังกฤษแน่นชัวร์
