วิเคราะห์ ข้อสอบ TOEIC part 2

วิเคราะห์ ข้อสอบ toeic part 2
Reading Time: 6 minutes

วิเคราะห์ ข้อสอบ TOEIC part 2

สวัสดีคะ น้อง ๆ เป็นงัยกันบ้างคะ สบายดีกันอยู่ทุกคนใช่ไหม อิอ วันนี้พี่ก็ได้มีเรื่องราวดี ๆ มาแบ่งปันน้อง ๆ กันอีกแล้วนะคะ แต่สำหรับวันนี้เรื่องที่พี่จะมาพูดกันเนี้ย จะเป็นในมุมมองของ ข้อสอบ teoic อีกแบบที่รู้จักกันดีในบรรดาสาว ๆ ที่อยากเป็นแอร์ หรือคนที่อยากทำงานในบริษัททั้งในแต่ต่างประเทศ แล้วมีความจำเป็นต้องใช้คะแนนตัวนี้ นั่นก็คือ !!!!!!!!!!!!!!!! TOEIC นั่นเองคะ เป็นข้อสอบที่วัดความสามารถของน้อง ๆ ในมุมในด้านพวกธุรกิจ หรือเพื่อการสื่อสารอะไรทำนองนี้ ส่วนเรื่องที่พี่เลือกมาพูดในวันนี้จะเป็นเรื่องของ ข้อสอบ TOEIC Listening ก่อนนะคะ ใน PART 2 ของตัวข้อสอบ เป็นลักษณะการถามมาตอบไปคะ มีทั้งหมด 30 ข้อ ซึ่งถือว่าเป็น everyday life เลยก็ว่าได้คะ พี่จะพาน้อง ๆ วิเคราะห์กันนะคะ ว่าตัวข้อสอบหมวดนี้ มันออกได้กี่แบบบ้าง และเทคนิคการตอบข้อสอบแบบฉบับย่อ มาให้น้อง ๆ ได้นำไปใช้ได้เลยคะ

 

ข้อสอบ TOEIC Listening แบบที่ 1 เป็นลักษณะข้อสอบที่ขึ้นต้นด้วย Helping verb หรืออีกชื่อคือแนว YES-NO question ซึ่งเวลาตอบจะต้องเป็นลักษณะ ดังนี้คะ

 

Do you want some lemon with your tea?
(A) Yes, but only a small slice.
(B) No, we left at three.
(C) Under the lemon tree.
จากโจทย์จะเห็นได้ชัดนะคะ ขึ้นต้นด้วย Helping verb คะ ดังนั้น
วิธีการตอบจะง่ายมาก แค่มีคำว่า YES / NO ก็สามารถเป็น
คำตอบได้เลยคะ ง่ายป่าว
Haven’t we received our concert tickets yet?
(A) I’ve never heard of that group.
(B) No, I need to call the box office again.
(C) It’s an hour away.
ข้อนี้ก็เช่นกันนะคะ มี Helping verb >
Verb to have ขึ้นหัวประโยคเลยจริงไหม
ดังนั้น ก็ตอบข้อ B เลยคะ ง่ายมาก ๆๆ
Did you remember to bring your passport?
(A) No, I’ll have to go home and get it.
(B) Enter your password.
(C) Hong Wei brought some, too.
แบบเดิมเปี๊ยบบบ เพียงแค่ใช้คำว่า Did เท่านั้นเอง
คำตอบไม่ทิ้งแนวคะ คือ No …. เลย

 

ข้อสอบ TOEIC Listening แบบที่ 2 เป็นลักษณะข้อสอบที่ถามด้วย Question Word ซึ่งวิธีการตอบจะแตกต่างกันออกไปเลยนะคะ

Why = ทำไม ( เวลาตอบมักจะนิยมถามเหตุผลนะคะ )

Why do you think the flight was canceled?
(A) There was a snowstorm.
(B) Three flight attendants.
(C) An hour from here.
ส่วนใหญ่คำถามแนวนี้จะมีคำเด่น ๆ คือ why
ขึ้นต้นมาอยู่แล้วจริงไหมคะ ดังนั้นการตอบก็จะต้อง
วิเคราะห์ต่อนิดหน่อยคะว่า ต้องให้เหตุผลแบบไหน
กลับไปเช่นในโจทย์ถามว่า ทำไมคิดว่าเที่ยวบินจะ
เลื่อน อีกคนก็ต้องบอกเหตุผลไปว่า เพราะหิมะตก
Why is this door unlocked?
(A) Because I’ve just unlocked it.
(B) It’s by the front door.
(C) No, not usually.
เหมือนกันคะ ข้อนี้จะง่ายหน่อยตรงที่ว่า มีคำนำร่อง
คือคำว่า because ให้น้อง ๆ เลย ก็บอกแล้วนะว่า
มันคือการถามเหตุผลคะ อิอิ
Why don’t we buy new chairs for the waiting room?
(A) Please have a seat.
(B) There’s not enough money.
(C) It’s about 34 kilograms.
คำถามใช้คำว่า why don’t ซึ่งมีลักษณะคำถามว่า
ทำไมละ อีกฝ่ายเลยหาเหตุผลไปว่า ที่ไม่ทำอย่าง
นั้นก็เพราะว่าอย่างนี้ เป็นต้น
Why didn’t you come to the party?
(A) I simply forgot about it.
(B) That’s right, it didn’t.
(C) The invitation was nice.
โจทย์ถามในเชิงว่าทำไมไม่มางานปาร์ตี้ จะให้ตอบ
ว่า การเชิญชวนมันดี แบบข้อ C ก็คงไม่ใช่จริงไหม
จริงๆ แล้วมันก็เหมือนถามเราจริง ๆ นะคะว่า ทำไม
ไม่มา ก็ตอบไปเลยคะว่า “ลืม!! “

 

Who = ใคร ( ส่วนใหญ่ ข้อสอบ TOEIC จะตอบไม่เป็นอาชีพ ก็ชื่อคน คะ )

Who was the director talking to this morning?
(A) A former employee.
(B) No, tomorrow morning.
(C) In the other direction.
สังเกตุได้ชัดเลยนะคะว่า มันถามว่า Who ดังนั้นถ้า
จะให้ตอบว่า No tomorrow หรือ other direction
มันก็ไม่ใช่มนุษย์จริงไหมค่ะ ตัด choice อย่างเดียว
เลยคะ ง่ายมาก ๆ อิอิ
Who shall I say is calling?
(A) I’m calling from Spain.
(B) Later today would be fine.
(C) This is Leo Jensen from ATO.
จากคำถาม มันเล่นคำว่า who ดังนั้นจะเป็นคำตอบ
ใดไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ คน !! จริงไหม ดังนั้นเลยตอบ
ข้อ C งัยละคะ อิอิ
Who took my umbrella?
(A) I’ll read it later.
(B) The blue one.
(C) I did, by mistake.
โจทย์ถามน้อง ๆ ในเชิงที่ว่า ใครเอาร่มไป ดังนั้น ถ้า
ใน choice ไม่มีชื่อคนก็ตัดทิ้งเลย และข้อนี้โจทย์
ถามในเชิง อดีต ด้วยนะคะ คือคำว่า took ดังนั้น
มันเลยต้องตอบเป็นอดีตกลับนะคะ
Who’s going to present the award to Mrs. Sato at the ceremony?
(A) After the president’s speech.
(B) Her manager will say a few words.
(C) No, I won’t be able to attend.
คำถามไม่ทิ้งแนวคะ หาชื่อคนให้เจอคือจบ 555 ได้
คะแนนเลยคะ ข้อ B อิอิ

 

What = อะไร ( ข้อสอบ TOEIC ค่อนข้างที่จะมีหลากหลายนะคะ ต้องฟังคำถามดี ๆ น้า )

What areas will the inspectors be checking tomorrow?
(A) We can always arrange a tour.
(B) The cutting and sewing rooms.
(C) For a semi-annual inspection.
เทคนิคคำถามแนวนี้คือ ฟังโจทย์ดี ๆ นะคะว่าถาม
อะไร ให้ตอบแค่นั้นพอ เช่นข้อนี้ถาม what areas ก็
แค่นั้นเลย ไม่ต้องคิดลึกเด็ดขาด เพราะถ้าน้องคิด
ลึกกกกกกกก มากไปก็จะทำให้ไปสะเทือนข้ออื่น
ด้วยคะ เนื่องจาก 30 ข้อเนี้ย มัน non-stop !!
What are you planning to do in Buenos Aires?
(A) Sorry, I don’t.
(B) I’ll begin it this Thursday.
(C) I’m making a sales presentation.
โจทย์ข้อนี้ถาม plan คะ อย่างที่บอก ถามอะไรตอบ
อะไร ก็ตอบไปเลยคะว่า making a sales
presentation อย่างคิดลึกว่า ต้อง Sorry ฉันไม่
ต้องตอบให้ตรงคำถามนะคะ
What is the new computer programmer’s name?
(A) I use a laptop.
(B) We haven’t been introduced.
(C) I’ll need a copy of the program.
โจทย์ถามว่า what + name ดังนั้นน้องก็ไม่ต้องทำ
อะไรเยอะคะ แค่ดูว่าข้อไหนเป็นชื่อ ก็ตอบ จริงไหม
แต่จากโจทย์ มันบอกว่า ยังไม่มีชื่อนั่นเองค่ะ
haven’t been introduced
What kind of refreshments are they planning for the reception?
(A) Reception is bad in this area.
(B) Just dessert with coffee and tea.
(C) That was very kind of him.
โจทย์ถาม what + refreshment ดังนั้น น้องก็แค่ดู
ว่า ตัวเลือกใดที่เป็นพวกเครื่องดื่มแค่นั้นเองคะ ง่าย
มาก ๆๆๆ อิอิ

 

When = เมื่อไร ( ส่วนใหญ่ ข้อสอบ TOEIC ให้ตอบข้อที่เป็น เวลา คะ ++ )

When will you finish editing that report?
(A) No, I don’t need to add that.
(B) By the middle of next week.
(C) Since some time last January.
คำถามค่อนข้างชัดเลยนะคะว่า when ดังนั้น น้องก็
ต้องหาว่าข้อไหนเป็นเวลานั่นเองค่ะ จะตอบข้อแรก
ว่า No ก็ไม่เกี่ยวเพราะถ้าเป็นแนวนั้นจะเป็น Yes-
No question ไปแล้วจ้า
When was the client billed for the new designs?
(A) The building was completed on schedule.
(B) We sent out an invoice last week.
(C) That’s what the sign says.(A) The building was completed on schedule.
(B) We sent out an invoice last week.
ไม่ทิ้งแนวเดิมนะคะ หาข้อไหนก็ได้ที่เป็นเวลาก็
สามารถตอบได้เลยคะ ซึ่งค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว
ด้วย และอีกทั้งยังเป็นลักษณะอดีตด้วย จึงทำให้ชัด
ตรงคำว่า last week
When are you starting your new job?
(A) For the last two years.
(B) No, at the end.
(C) At the beginning of May.
โจทย์ถามว่าจะเริ่มงานเมื่อไร ก็ตรงคำว่า
beginning งัยละ จริงไหม อิอิ
When was the last time you had a complete medical exam?
(A) It will only take two hours.
(B) It must be three years now.
(C) You should see a specialist about that.
ถามเวลาเหมือนเดิม ว่าเราทำ exam เสร็จไปแล้ว
เมื่อไร ก็ตอบไปเลยว่า 3 ปีที่แล้วคะ ชัดเจนในบริบท
นะ

 

Where = ที่ไหน ( ส่วนใหญ่ ข้อสอบ TOEIC คำที่เป็นคำตอบจะเป็นสถานที่นะคะ )

Where can I find the printer cartridges?
(A) Did you really?
(B) Ten copies of each.
(C) In aisle two, on the left.
จะเห็นได้ชัดว่า เวลาตอบนั้นจะต้องเป็นตัวเลือกที่
เป็นสถานที่เท่านั้นคะ ดังนั้นเลยตอบข้อ C ทันที
เพราะถ้าตอบข้อ A เป็นการถามกลับ ซึ่งไม่น่าใช่
และข้อ B ถามจำนวนซึ่งก็ไม่ไปกับตัวคำถาม
ตอนต้นคะ
Where can I find the sweaters?
(A) No, I don’t think it is.
(B) On the second floor.
(C) Thanks, where did you find it?
ออกอย่างไรก็ออกอย่างนั้นไม่เปลี่ยนคะ คำตอบเป็น
คำว่า ชั้น 2 แน่นอนอยู่แล้ว ดังนั้นจะต้องตอบเป็น
สถานที่นะคะ อิอิ
Where should we go for dinner tonight?
(A) I feel like having Chinese food.
(B) Yes, we really should.
(C) I don’t have any problem with it.
โจทย์ถามว่าอยากกินอาหารแนวไหนคืนนี้ อีกคน
เลยตอบไปว่าอยากกินอาหารจีน ทำให้ต้องตีความ
ไปว่า อาหารจีนจะดีสุดจ้า
Where shall we arrange to meet?
(A) Let’s move the table over by the window.
(B) At your place around nine.
(C) Just a snack will be enough.
แบบไหนก็แบบนั้นคะ ตอบเหมือนเดิม สถานที่
เท่านั้น แต่เพียงแค่เพิ่มว่าเจอกันตอน 9 โมงกว่า ๆ
เข้ามาเพื่อให้เด็กบ้างคนไม่กล้าตอบข้อนี้ไรงี้คะ

 

How = อย่างไร ( ข้อสอบ TOEIC ค่อนข้างจะมีหลายรูปแบบเวลาถามแบบนี้ แต่มักจะเป็น ตัวเลข ความถี่ เป็นต้น

How many employees are expected to attend the staff training?
(A) Only thirty have signed up so far.
(B) We do need to hire more staff.
(C) He never showed up.
โจทย์เปิดประโยคมาด้วยความ how many ดังนั้น
ข้อที่เป็นคำตอบต้องเป็นตัวเลขแน่นอนคะ มีอยู่ข้อ
เดียวด้วยอยู่แล้วคือข้อ A จ้า
How often do you hear from your former colleagues?
(A) I still need one.
(B) I didn’t hear it.
(C) Every few weeks.
โจทย์ถามว่า มีความถี่นานเท่าไร คือการถามตัวเลข
เล็กน้อย เพราะมันใช้คำว่า How often !! นั่นเอง
หรือแปลว่า บ่อยครั้งแค่ไหน
How long should we keep notices on the bulletin board?
(A) About five centimeters long.
(B) He said it would.
(C) For about two weeks.
โจทย์ใช้คำว่า how long ซึ่งนั่นก็คือเป็นการถามถึง
ระยะทางอยู่แล้ว อาจจะเป็นระยะทางจริง ๆ หรือ
อาจจะเป็นจำนวนเวลาก็ได้ เพราะคำนี้ใช้ถามได้
สองอย่างคะ
How many callers responded to our radio advertisement?
(A) More than we expected.
(B) Sorry, I’ll lower the volume.
(C) It’s a four-color brochure.
โจทย์ถามจำนวนด้วยคำว่า how many ดังนั้น
คำตอบต้องเป็นตัวเลขแน่นอนคะ แต่โจทย์พลิก
แพลงขึ้นมาอีกนิดเป็นว่า มากกว่าที่คาดการณ์ไว้
ไรงี้จ้า

 

Whose = ของใคร ( ส่วนใหญ่ ข้อสอบ TOEIC จะคล้าย ๆ คำว่า Who เลยคะ ต้องตอบเป็นชื่อคนหรือว่าตำแหน่ง อาชีพ)

Whose jacket is this?
(A) Oh, that’s Joan’s.
(B) It’s not cold outside.
(C) I guess it is.
มีข้อเดียวที่เป็นคนจริงไหมคือ ข้อ A ดังนั้นถือว่าเป็น
ข้อสอบที่เรียกได้ว่าแจกแต้มกันเลยทีเดียวคะ แล้ว
ไม่ค่อยมีอะไรพลิกแพลง และเพิ่มเติมซักเล็กน้อยว่า
ออกไม่เยอะเท่าไรนะคะ ใน listening อ่า
Whose decision was it to change the colors of the company logo?
(A) Our consultants suggested we do it.
(B) No. It doesn’t belong to me.
(C) Red and green are my favorite colors.
น้อง ๆ ควรจะไปทวนพวก suffix ที่แปลว่าคนมา
เพิ่มด้วยจะดีมาก ๆ เลยคะนะ อย่างเช่นในนี้ใช้คำ
ว่า —-tants เข้ามาเพื่อบอกว่า นี้เป็นคนอะไร
ทำนองนี้จ้า ดังนั้นคำตอบเลยเป็นข้อ A

 

ข้อสอบ TOEIC Listening แบบที่ 3 เป็นแนวลักษณะ ที่ฝั่งหนึ่งพูดเพื่อให้อีกฟัง เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย หรือขอความเห็นบ้างอย่าง

It’s hard to find a taxi around here.
(A) It’s about 10 percent.
(B) This one feels softer.
(C) Yes, we should take a bus.
จากตัวคำถามเหมือนเขาพูดขึ้นมาลอย ๆ เลยนะคะ
ว่า มันเป็นอย่างนี้เนาะ ทำให้อีกฝ่ายต้องโต้กลับไป
ในเชิงที่ว่าเห็นด้วยไหม หรือพูดอีกข้อมูลหนึ่งเพื่อ
สนับสนุน หรือขัดแย้งอีกทีคะ จากโจทย์เลยต้องพา
ไปนั่งรถ bus กัน อิอิ
We aren’t going to be done on time, are we?
(A) I’ll watch it for you.
(B) She’s going there now.
(C) It doesn’t look that way.
โจทย์มาแนว Question word นะคะ โดยใช้คำว่า
are we ? มาถามพวกเรา ดังนั้นวิธีการตอบ เลย
ต้องดูภาพรวมเสริมด้วยเล็กน้อยคะ แต่ถือว่าอยู่ใน
หมวดนี้นะ เป็นการถามเพื่อความชัวร์ ไรงี้จ้า
I’ve just arranged to have my car repaired tomorrow.
(A) Between about 15 and 20.
(B) I bought two pair.
(C) Will you need a ride to work?
โจทย์มาในเชิงพูดลอย ๆ เท่านั้น แต่อีกฝ่ายอยากจะ
เสนออะไรเพื่อช่วย หรือส่งเสริมเข้าบ้างอย่าง
ค่อนข้างชัดอยู่แล้วว่าไม่ได้ถามถึงตัวเลข หรือ ไปทำ
อะไรมาซักกะหน่อย จริงมั้ยย อิอิ
We should recruit volunteers to help plan the company picnic.
(A) I’m sure Kathy from accounting will help.
(B) He leads the overnight crew.
(C) That’s not included in the business plan.
เป็นการพูดเพื่อเตือนอีกฝ่าย ว่า ทุกอย่างโอเค
พร้อมแล้วใช่ไหมอะไรทำนองนี้คะ จากที่ดู ๆ
ค่อนข้างชัดเจนเลยคะว่า ไม่ต้องการถามกลับ แต่
เป็นการใส่ความคิดเห็นที่เน้นความถูกต้องคะ

 

ข้อสอบ TOEIC Listening แบบที่ 4 แนวให้เลือกบ้างสิ่งบ้างอย่าง หรือถามบ้างอย่างเพื่อความแน่ใจ

Do you want to unpack supplies, or would you rather help customers?
(A) It’s a pack of six.
(B) Which would you prefer?
(C) The office supply store.
จากคำถามออกไม่ค่อยเยอะเท่าไรนะคะ เป็นแนว
การเลือกมากกว่าคะ ว่าอยากได้อะไรแบบไหนบ้าง
ทำนองนี้ค่ะ สังเกตคำว่า Want นะคะ แล้วก็มีให้
เลือกสองอย่างให้เลือกด้วยนั่นเองคะ
Should we try the new restaurant across the street?
(A) Sure, let me go get my wallet.
(B) It should be, yes.
(C) We’ll order one.
เป็นการถามเพื่อความแน่ใจว่าควรทำอย่างนี้จริงใช่
ไหม แล้วอีกฝ่ายก็เพิ่มความมั่นใจให้กับเขา เหมือน
จะคล้ายแบบที่สามนะคะ แต่ก็มีความต่างอยู่
เล็กน้อยคะ
The mail has been delivered already, hasn’t it?
(A) Sorry, your meal isn’t ready yet.
(B) Yes, it came at 2 o’clock.
(C) He lives in New York City.
โจทย์มาในแนวของ question tag เลยคะ กล่าวคือ
อยากให้น้อง ๆดูว่า เมลล์นี้มันส่งไปแล้วใช่ไหม อี
กฝ่ายก็เพื่อความมั่นใจให้เลยคะว่า ส่งไปแล้วนะอะไ
ทำนองนี้คะ 🙂
Don’t you think you might need an umbrella?
(A) I have one in my bag.
(B) Correct, last night.
(C) We’ll think of you, too.
เป็นการถามว่า อยากได้ร่มไหม เป็นการถามเพื่อ
ความแน่ใจของอีกฝ่ายนะคะ ว่าพร้อมแล้วใช่ไหม
อีกฝ่ายก็ต้องตอบกลับเพื่อเสริมความมั่นใจนะคะว่า
โอเค ฉันพร้อมแล้วคะ อะไรประมาณนี้

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับแนว ข้อสอบ TOEIC ทั้งหมดใน Part 2 ของ listening ที่พี่ไปทำการวิเคราะห์แยกข้อสอบออกมาให้เลย ทีนี้เราจะมาดูสัดส่วนกันบ้างนะคะว่า แบบไหนออกเยอะสุด ตามรูปภาพด้านล่างนี้เลยคะ

toeic-listening-part-2

จะเห็นได้ชัดนะคะว่า แบบที่ 2 เป็นแบบที่น้องต้องฝึกมากที่สุดเลยคะ เพราะว่า มันมีหลากหลายรูปแบบมาก ๆ เช่นคำว่า what when why where เต็มไปหมดเลย T____________T ดังนั้นถ้าอยากให้เป๊ะ น้อง ๆ ต้องไปฝึกดูว่าคำถามแบบนี้เค้าตอบได้กี่แบบกันเยอะ ๆ นะคะ และเหนือสิ่งอื่นใด คือการฝึกทำโจทย์บ่อยๆ นะคะ เพื่อให้น้อง ๆ สามารถที่จะทำ ข้อสอบ TOEIC ออกมาได้อย่างไม่ยากเย็นคะ อิอิ วันนี้พี่ก็ขอตัวลาไปก่อนนะคะ ไว้กลับมาพบกันใหม่ อีกน้าคะ ไว้พี่มาวิเคราะห์ข้อสอบให้อีกทีนะคะจ้า

Related Posts