ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ทำไมถึงควรเรียนต่อ ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.)

1. มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ถูกจัดให้เป็นสถาบันการศึกษาพระพุทธศาสนาชั้นสูงในรูปแบบมหาวิทยาลัย ซึ่งมีบุคคลากรที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศที่สนใจด้านศาสนา มักจะผ่านหลักสูตรและเรียนที่นี่กันทั้งนั้น

2. มจร. ได้รับการสถาปนาจากสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาตั้งแต่ปี 2439 มีอายุร่วมร้อยกว่าปีมาแล้ว ถือว่าเป็นสถาบันที่เก่าแก่ด้านศาสนาแห่งแรกของเมืองไทย ที่สำคัญยังถูกจัดระดับเป็นสถาบันชั้นสูงเช่นเดียวกับ มหาวิทยาลัยชั้นนำที่ก่อตั้งตามหลักของศาสนาในประเทศนั้นๆ เช่น มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ มหาวิทยาลัยปารีส ประเทศฝรั่งเศส

3. ถ้าพูดถึงด้านการศึกษาพุทธศาสนา มจร. ถือเป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่มีบทบาทโดดเด่นในการส่งเสริมการศึกษาด้านพระพุทธศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก มีการศึกษา ค้นคว้าวิจัยด้านพระพุทธศาสนาโดยร่วมมือกับสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ

4. มีความทันสมัยในด้านการเรียนการสอนไม่แพ้ที่อื่น เพราะที่ มจร. ได้พัฒนาศาสตร์ด้านการเรียนรู้ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป จึงได้จัดตั้งสถาบันวิจัยขึ้นภายในมหาวิทยาลัยเพื่อดำเนินการวิจัยในด้านพุทธศาสตร์ประยุกต์ด้วย รวมถึงยังมีการวิจัยและค้นคว้า เพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมควบคู่ไปกับกระบวนการเรียนการสอน เน้นนำองค์ความรู้ที่ค้นพบมาประยุกต์ใช้แก้ปัญหา ศีลธรรม และจริยธรรมของสังคม รวมทั้งพัฒนาคุณภาพงานวิชาการด้านพระพุทธศาสนา

5. ได้รับการพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลาง (HUB) ของการศึกษาพระพุทธศาสนาในประชาคมอาเซียน ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย และได้จัดตั้งศูนย์อาเซียนศึกษา วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ และวิทยาลัยพระธรรมทูต

6. เป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่มีบทบาทโดดเด่นในการส่งเสริมการศึกษาด้านพระพุทธศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก มีการพัฒนาหลักสูตรให้ทัดเทียมกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ(TQF:HEd) และยังมีวิทยาเขตสาขากระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย

7. ถึงจะเป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นหลักสูตรด้านศาสนา แต่ด้านเทคโนโลยีไอทีที่นี่ก็เตรียมพร้อมรองรับการพัฒนาความรู้ให้แก่นักศึกษาอย่างเต็มที่ เน้นใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการบริหาร การเรียนการสอน ผ่านระบบ MIS โดยบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถทางจิตใจและปัญญา

8. มีหลักสูตรปริญญาโทที่เข้มข้นด้านพุทธศาสนา ในขณะเดียวกันก็ได้มีการพัฒนาหลักสูตรใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากมาย โดยปัจจุบันมีหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต มีทั้งหมด 19 สาขาวิชา ทำให้นักศึกษามีโอกาสในการเรียนรู้ในด้านต่างๆ ตามความสนใจของตนเอง นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรอินเตอร์หรือภาคภาษาอังกฤษให้เลือกเรียนอีกด้วย

 


แนะนำคณะ ปริญญาโท มจร. ยอดนิยม

นอกจากหลักสูตรปริญญาโทด้านพุทธศาสนาที่ มจร. จะมีชื่อเสียงแล้ว ยังมีวิชาการด้านอื่นๆ สำหรับปริญญาโทที่น่าลงเรียนกันอีกด้วย

ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คณะพุทธศาสตร์ : พธ.ม.(ศาสนาเปรียบเทียบ), พธ.ม.(พระไตรปิฎกศึกษา)

ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คณะครุศาสตร์ : พธ.ม.(การบริหารการศึกษา), พธ.ม.(การสอนสังคมศึกษา), พธ.ม.(จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว), ค.ม. (สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ)

ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คณะมนุษยศาสตร์ : พธ.ม.(ภาษาศาสตร์), พธ.ม.(ภาษาอังกฤษ) หลักสูตรนานาชาติ, พธ.ม.(ชีวิตและความตาย), พธ.ม.(พุทธจิตวิทยา) , พธ.ม.(พุทธศาสตร์และศิลปะแห่งชีวิต)

ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คณะสังคมศาสตร์ : ร.ม. (รัฐศาสตร์), รป.ม.(รัฐประศาสนศาสตร์), น.ม. (นิติศาสตร์), พธ.ม. (สาขาวิชาการพัฒนาสังคม), พธ.ม. (สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ), ปร.ด. (สาขาวิชารัฐศาสตร์), ปร.ด. (สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์)

ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยนานาชาติ : พธ.ม.(พระพุทธศาสนา) หลักสูตรนานาชาติ, พธ.ม.(อาเซียนศึกษา) หลักสูตรนานาชาติ

 


ทำไมถึงควรเรียน ปริญญาโท มจร. คณะ ครุศาสตรมหาบัณฑิต

อย่างที่บอกว่า มจร. เค้าไม่ได้มีดีแค่ด้านพุทธศาสนา การเรียนการสอนของ มจร. ยังมีหลักสูตรที่น่าสนใจสำหรับคนอยากต่อ ป.โท ในสาขาอื่นๆ อย่าง สายครุศาสตร์ ยอดนิยม โดยมีสาขาวิชาให้เลือกถึง 5 สาขาเลยทีเดียว มีทั้งสาขาฝั่งบริหารอย่าง การบริหารการศึกษา ไปจนถึงการสอนแบบลงลึกอย่างเชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างการสอนสังคมศึกษาและภาษาอังกฤษ ใครถนัดและสนใจแบบไหนก็เลือกแบบนั้นได้เลย

ที่สำคัญป.โทที่ มจร. นั้นมักจะมีโปรโมชั่นลดพิเศษค่าเทอมให้กับผู้สนใจอีกด้วย เนื่องจากที่ มจร. เน้นเรื่องการเผยแพร่ความรู้การศึกษา จึงนำเสนอค่าเล่าเรียนที่ทุกคนเข้าถึงได้และมีโอกาสในการศึกษาได้เท่าเทียมกัน พอยิ่งมีส่วนลดค่าเทอมแล้ว ใครที่อยากเรียนต่อ ป.โท สายครุศาสตร์ที่นี่ ก็มีโอกาสเรียนกันถ้วนหน้าเลยทีเดียว

ในแง่ความเข้มข้นของหลักสูตรครุศาสตร์ มรจ. นั้นไม่ต้องกังวลเลยทีเดียว เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมคณาจารย์และบุคคลากรระดับประเทศมาให้ความรู้นักศึกษา และยังเลือกใช้บุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในสาขาแบบเฉพาะทาง นอกจากนี้เรื่องของการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ที่ มจร. เค้าก็ให้ความสำคัญมากๆ เช่นเดียวกัน

โดยแนวทางหลักสูตรจะมุ่งพัฒนานักศึกษาให้มีความรู้ที่กว้างขวาง ทางสถาบันเองได้จัดตั้งสถาบันวิจัยขึ้นภายในมหาวิทยาลัย ช่วยให้นักศึกษาสามารถเรียนรู้วิจัยและพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ได้อย่างสากล ทันเหตุการณ์และเข้ากับยุคสมัย Thailand 4.0 มจร. มีการใช้ระบบไอที MIS ในการส่งเสริมการเรียนการสอนและยังส่งเสริม พัฒนาหลักสูตรให้ทัดเทียมกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ(TQF:HEd) โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาบูรณาการในกระบวนการจัดการเรียนสอนอีกด้วย ดังนั้นบอกได้เลยว่า ความรู้ดี คุณธรรมเด่น อย่างแน่นอน

 


จุดเด่นของ ปริญญาโท มจร. คณะ ครุศาสตรมหาบัณฑิต

✔︎ มีความหลากหลายของหลักสูตรให้เลือก โดยมีการเรียนการสอนด้านบัณฑิตศึกษาถึง 5 หลักสูตรด้วยกัน ในแต่ละหลักสูตรจะเน้นการสร้างทักษะความรู้ความสามารถและสมรรถนะในการทำงาน โดยมุ่งเน้นมาตรฐานผลการเรียนรู้ของบัณฑิต (Learning Outcomes) ซึ่งเป็นไปตาม รอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (TQF:Hed) ประกอบด้วย 4 เป้าประสงค์ 15 ตัวชี้วัด 13 กลยุทธ์

✔︎ เน้นพัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างเข้มข้น มจร. ต้องการสร้างบัณฑิตที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการสอนในสาขาต่างๆ ตามแนวทางพุทธศาสนา สร้างความเข้าใจและก่อให้เกิดการพัฒนาชุมชนและสังคม

✔︎ ด้านเทคโนโลยีและงานวิจัยก็ทันสมัยไม่แพ้ที่ใด โดย มจร. มีสถาบันวิจัยเป็นของตัวเอง แถมมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับสถาบันระดับประเทศรวมถึงนานาชาติอีกด้วย

✔︎ การเรียนการสอนแต่ละหลักสูตรมีระบบไอทีเข้ามาช่วย ทำให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนออนไลน์ ระบบ MOOC วารสารออนไลน์ การสอบออนไลน์ รวมถึงห้องสมุดออนไลน์ด้านศาสนาก็มีให้ใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย

✔︎ เน้นการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมให้มีคุณภาพทั้งในระดับชาติและนานาชาติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้ และนวัตกรรมด้านพระพุทธศาสนาบูรณาการกับศาสตร์อื่น ให้สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของนโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติ

✔︎ ค่าเล่าเรียนไม่แพง มักมีส่วนลดให้กับผู้สนใจเพราะที่นี่เน้นด้านการพัฒนาการศึกษาให้ทุกๆ คนได้รับโอกาสได้เท่าเทียมกัน โดยส่วนลดมักจะอยู่ที่ 20%-50% ขึ้นอยู่กับหลักสูตรและสาขาวิชา

 


ปริญญาโท มจร. ครุศาสตรมหาบัณฑิต เปิดรับสมัครอะไรบ้าง? และเปิดรับสมัครเมื่อไร ?

การเปิดรับสมัครของครุศาสตร์ที่ มจร. นั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละเทอมทำให้การเปิดรับสมัครในแต่ละสาขาอาจจะไม่พร้อมกัน แต่โดยทั่วไปจะมีสาขาต่างๆ ให้เลือกเรียนดังนี้

  • สาขาการบริหารการศึกษา
  • สาขาการสอนสังคมศึกษา
  • สาขาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว
  • สาขาพุทธบริหารการศึกษา
  • สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ

เปิดรับสมัคร : เปิดรับถึงช่วงพฤษภาคมหรือมิถุนายน ขึ้นอยู่กับประกาศของสาขาวิชานั้นๆ

รูปแบบหลักสูตร : มีแผน ก ทำวิทยานิพนธ์และ ข ไม่มีวิทยานิพนธ์

ค่าเล่าเรียน : แต่ละหลักสูตรจะมีค่าเล่าเรียนที่ต่างกัน โดยเริ่มที่ 50,000 บาทต่อปี และอาจจะมีส่วนลดให้ตามช่วงเวลา

ระยะเวลาเรียน : หลักสูตร 2 ปี จำนวน 4 ภาคการศึกษา

การพิจารณา : ผ่านกระบวนการสอบการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการ

 


การสมัคร คุณสมบัติ ผู้สนใจศึกษาต่อ ป.โท มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ครุศาสตรมหาบัณฑิต

  • สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเทียบท่าจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง
  • เกรดเฉลี่ยสะสมในระดับปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า 2.5 ยกเว้น ผู้มีประสบการณ์ทำงานติดต่อกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี
  • ผ่านการสอบคัดเลือกตามมหาวิทยาลัยกำหนด
  • มีผลสอบภาษาอังกฤษผลสอบวัดระดับภาษาดังนี้
    ผลสอบ MCU-GET ไม่ต่ำกว่า 240 คะแนน
    ผลสอบ TOEFL Paper Based ไม่ต่ำกว่า 500 คะแนน
    ผลสอบ TOEFL Computer Based ไม่ต่ำกว่า 173 คะแนน
    ผลสอบ TOEFL Internet Based ไม่ต่ำกว่า 61 คะแนน
    ผลสอบ IELTS ไม่ต่ำกว่า 5.0 คะแนน
    ผลสอบ CU-TEP ไม่ต่ำกว่า 66 คะแนน
    ผลสอบ TU-GET ไม่ต่ำกว่า 550 คะแนน

 


ทำไมถึงควรเรียน ปริญญาโท มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ภาคอินเตอร์ พุทธศาสนามหาบัณฑิต มจร. (Master of Arts in Buddhist Studies)

นอกจากจะมุ่งเน้นด้านการสอนในด้านศาสตร์ของพุทธศาสนาในรูปแบบภาษาไทยแล้ว ที่มจร. ยังได้มีการพัฒนาสถาบันและออกแบบหลักสูตรพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจการเรียนในรูปแบบภาษาอังกฤษหรือหลักสูตรฉบับนานาชาติอีกด้วย โดยหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาที่ มจร. นั้นเน้นหนักด้านความรู้ทางพุทธศาสนา

โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ศึกษาพุทธศาสนาเชิงลึกและครอบคลุมโดยไม่มีการแบ่งแยกนิกายหรือเชื้อชาติ ทำให้หลายคนได้เพื่อนใหม่จากต่างประเทศ และสามารถเรียนรู้เข้าใจในเชิงศาสนาและวัฒนาธรรมต่างชาติได้ดีขึ้น ตัวหลักสูตร ป.โท มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย นานาชาติเปิดสอนมาตั้งแต่ พ.ศ. 2543

ที่สำคัญการเรียนอินเตอร์ที่ มจร. นั้นถือว่ามีความเป็นสากลสูงมาก เพราะทางสถาบันเป็น Hub ทางด้านพุทธศาสนาที่ใหญ่อันดับต้นในภูมิภาคเอเชีย ปัจจุบันวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ หรือที่เรียกกันว่า IBSC ได้เปิดสอนหลักสูตรต่างๆ รวมถึง ป.โท มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทั้งในสาขาพุทธศึกษาและอาเซียนศึกษา รวมถึงสามารถต่อยอดในหลักสูตรปริญญาเอกทางพระพุทธศาสนาได้ด้วยเช่นกัน

หลักสูตรการเรียนการสอนของที่นี่ถือว่าอินเตอร์สุดๆ เพราะทาง มจร. มีวิสัยทัศน์ในการจัดตั้งสถาบันให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนานานาชาติ สำหรับหลักสูตรที่ IBSC นั้นทุกคนสามารถลงเรียนได้ ไม่ว่าจะเป็น พระภิกษุสามเณรและฆราวาสซึ่งเป็นประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ยังได้สร้างหลักสูตรเฉพาะเพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดด้านการศึกษาและเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ปัจจุบันมีทั้งนิสิตไทย นิสิตชาวต่างชาติ มาลงเรียนที่นี่กันเยอะมาก ทำให้ให้บรรยากาศการเรียนการสอนนั้นเป็นสากลอย่างแท้จริง ที่สำคัญมีอาจารย์และผู้ทรงคุณวุฒิทั้งไทยและเทศต่างก็มาบรรยายให้ความรู้ เหมาะกับคนที่อยากพัฒนาด้านภาษา รวมไปถึงองค์ความรู้ทางศาสนาด้วยเช่นเดียวกัน IBSC ยังได้สนับสนุนการค้นคว้าทําวิจัยในพระพุทธศาสนา และออกแบบการศึกษาด้านพระพุทธศาสนาให้ทันต่อความต้องการของโลกที่กำลังเปลี่ยนไป โดยเน้นด้านการพัฒนา Mindset แถมในปัจจุบัน IBSC ได้เริ่มมีการเปิดการเรียนการสอนออนไลน์ให้เท่าทันกับยุคดิจิทัลอีกด้วย

 


จุดเด่นของ ปริญญาโท มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ภาคอินเตอร์ พุทธศาสนามหาบัณฑิต

✔︎ IBSC มีหลักสูตรให้เลือกหลากหลายตามความสนใจ ที่สำคัญมีการออกแบบหลักสูตรพิเศษซึ่งเน้นรูปแบบการเรียน การสอนและการสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษหรือหลักสูตรฉบับนานาชาติโดยเฉพาะ

✔︎ แต่ละหลักสูตร ป.โท มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จะเน้นการสร้างทักษะความรู้ความสามารถและสมรรถนะในการปฏิบัติงาน โดยมุ่งเน้นมาตรฐานผลการเรียนรู้ของบัณฑิต (Learning Outcomes) ซึ่งเป็นไปตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (TQF:Hed) ประกอบด้วย 4 เป้าประสงค์ 15 ตัวชี้วัด 13 กลยุทธ์

✔︎ หลักสูตรที่ IBSC มีอาจารย์และผู้ทรงคุณวุฒิทั้งไทยและเทศต่างก็มาบรรยายให้ความรู้ ปัจจุบันมีนักศึกษาและคณาจารย์กว่า 20 ประเทศ ทำให้นักศึกษาได้ในองค์ความรู้ควบคู่กับการปฏิบัติ นอกจากนี้สถาบันยังมีจุดมุ่งหมายที่จะก้าวไปสู่ความเป็นศูนย์กลางของการศึกษาพุทธศาสนาในระดับสากล ทำให้มั่นใจว่าบัณฑิตที่จบไปสามารถต่อยอดการทำงานในสายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

✔︎ หลักสูตร ป.โท มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อินเตอร์มีการสอนผ่านระบบออนไลน์ โดยมีระบบไอทีเข้ามาช่วย ทำให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ได้สะดวกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนออนไลน์ ระบบ MOOC วารสารออนไลน์ การสอบออนไลน์ รวมถึงห้องสมุดออนไลน์ด้านศาสนาก็มีให้ใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย

✔︎ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ที่ลึกซึ้งในสาขาการศึกษาพุทธศาสนาและส่งเสริมการพัฒนาทักษะการวิจัยของนักเรียน โดยส่งเสริมความเป็นอิสระการคิดเชิงวิเคราะห์ การแก้ปัญหา ความคิดริเริ่ม โดยมจร. มีสถาบันวิจัยเป็นของตัวเอง แถมมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับสถาบันระดับประเทศรวมถึงนานาชาติอีกด้วย

✔︎ ค่าเล่าเรียนสำหรับหลักสูตรอินเตอร์ถือว่าไม่แพง มีส่วนลดและบางครั้งสามารถผ่อนชำระได้ โดยส่วนลดมักจะอยู่ที่ 20%-50% ขึ้นอยู่กับหลักสูตรและสาขาวิชา

 


ปริญญาโท มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ภาคอินเตอร์ พุทธศาสนามหาบัณฑิต มจร. เปิดรับสมัครอะไรบ้าง? และเปิดรับสมัครเมื่อไร ?

การเปิดรับสมัครสำหรับภาคอินเตอร์หรือ ISBC นั้นจะแบ่งหลักสูตรการเรียนดังนี้คือ

  • พธ.ม.(พระพุทธศาสนา) หลักสูตรนานาชาติ
  • พธ.ม.(อาเซียนศึกษา) หลักสูตรนานาชาติ
  • พธ.ด.(พระพุทธศาสนา) หลักสูตรนานาชาติ

รูปแบบหลักสูตร : มีแผน A ทำวิทยานิพนธ์และ B ไม่มีวิทยานิพนธ์ แต่ทำ Research Paper แทน

ค่าเล่าเรียน : แต่ละหลักสูตรจะมีค่าเล่าเรียนที่ต่างกัน โดยเริ่มที่ 50,000 บาทต่อเทอม และอาจจะมีส่วนลดให้ตามช่วงเวลา

ระยะเวลาเรียน : หลักสูตร 2 ปี จำนวน 4 ภาคการศึกษา

การพิจารณา : ผ่านกระบวนการสอบการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการ

 


การสมัคร คุณสมบัติ ผู้สนใจศึกษาต่อ ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ภาคอินเตอร์

  • สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าโดยมีเกรดเฉลี่ยอย่างน้อย 2.5
  • ส่งใบสมัครระดับบัณฑิตศึกษาที่สมบูรณ์ทางออนไลน์ที่สำนักงานบริการนักศึกษา IBSC
  • ส่งใบรับรองผลการเรียนอย่างเป็นทางการในระดับปริญญาตรี
  • จดหมายแนะนำจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง
  • ส่ง Thesis Proposal หรือข้อเสนอวิทยานิพนธ์จากผู้สมัครความยาว 8-10 หน้า
  • ส่งประวัติการทำงาน CV หรือ Resume
  • ผลทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษตามที่กำหนด
    ผลสอบ MCU-GET ไม่ต่ำกว่า 300 คะแนน
    ผลสอบ TOEFL Internet Based ไม่ต่ำกว่า 82 คะแนน
    ผลสอบ IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.0 คะแนน
Related Posts