TOEIC ไม่ยากอย่างที่คิด

TOEIC ไม่ยากอย่างที่คิด

TOEIC ไม่ยากอย่างที่คิด

 

หลายคนที่กำลังจะสอบ TOEIC อาจจะกำลังคิดกับตัวเองว่า “ ข้อสอบ ยากแน่ๆ ” “ สอบคราวนี้ คะแนน โทอิค ไม่ถึง 600 แน่ ” แต่เรากำลังจะบอกทุกคนว่า TOEIC ไม่ได้ยากอย่างที่คิด

 

การสอบ TOEIC Test เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้สมัครงานและกลุ่มคนที่ทำงานแล้ว สอบเพื่อปรับระดับตำแหน่ง ทั้งในหน่วยงานของไทยและหน่วยงานสากล เพราะฉะนั้น โทอิค จึงมีความสำคัญกับกลุ่มคนเหล่านี้มาก และจำนวนคนที่ไปสอบจะเยอะมาก ที่นั่งสอบเต็มไว ถ้าจองใกล้ๆ จะเต็มบ่อย ควรโทรจองก่อนแต่เนิ่นๆ สำหรับทุกคนที่ไปสอบต้องนึกเอาไว้ก่อนว่า การสอบโทอิค ไม่ได้เหมือนการสอบในห้องเรียนที่ต้องแข่งกันว่า ใครได้คะแนนเยอะ ใครได้ที่ 1 โทอิค เป็นการทดสอบตัวเอง วัดระดับภาษาของเราว่าจะผ่านเกณฑ์ตามที่บริษัทฯ ตั้งไว้ หรือได้มากกว่าที่ตนเองเคยทำได้ตอนเข้ามาทำงานในบริษัทฯ รึเปล่า

 

บริษัทฯ ส่วนใหญ่ ตั้งเกณฑ์ไว้ให้ผู้สมัครมีคะแนน TOEIC มากกว่า 550 ขึ้นไป บ้างก็ 600 หรือบางที่ 700 คะแนน แล้วแต่บริษัทว่าเกณฑ์ของที่บริษัทต้องการเท่าไหร่ หน้าที่ของเราคือ การสอบเพื่อให้ได้ตามคะแนนเป้าหมาย เพราะถ้าเกณฑ์บริษัทที่บอกให้ผ่าน 550 คะแนน คือถ้าคะแนนผ่าน 550 คะแนน ก็จะผ่านเข้ารอบรับไปพิจารณา หรือสอบข้อเขียนในกระบวนการคัดเลือกคนเข้าบริษัทต่อไป ผู้สอบเพียงแค่ทำเต็มความสามารถที่มี ให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะฉะนั้น อย่ากดดันกับการต้องได้คะแนนสูงปรี๊ดในการสอบ ตั้งเป้าหมาย แล้วพุ่งชนให้ถึง ถ้าคะแนนเราถึงตามที่เราตั้งไว้ ถือว่าเท่าทุน ได้คะแนนสูงกว่าที่ตั้งใจไว้ถือว่าเป็นกำไร

 

ส่วนระดับความยากง่ายของ โทอิค ภาพรวมถือว่าระดับคำศัพท์ง่ายมาก เพื่อให้เห็นภาพ ลองเทียบกับ cu-tep ielts หรือ toefl ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการสอบในระดับสากลที่เป็นที่นิยมมากในไทย เมื่อเทียบกับแล้ว TOEIC กลายเป็นน้องเล็กสุดไปเลย เพราะคำศัพท์ไม่ยาก Grammar ไม่ซับซ้อน เทียบความรู้ได้กับช่วงที่เราเรียนมัธยมปลาย อย่างเช่น increase – เพิ่ม; decrease – ลด; demand – อุปสงค์; supply – อุปทาน; progress – ความก้าวหน้า เป็นต้น

 

คราวนี้เรามาเจาะเป็นแต่ละ Part บ้าง : TOEIC แบ่งเป็น 2 Part คือ Listening และ Reading

 

TOEIC Listening

การฟัง จะมี 4 ส่วนคือ รูปภาพ ถามตอบ บทสนทนา และบรรยายสั้นๆ วัดความเข้าใจตอนฟังภาษาอังกฤษทั่วไป อย่างรูปภาพ เห็นว่าเป็นรูปอะไรแล้วตอบตามที่ได้ยิน ส่วนข้อสอบการฟังที่เป็นถามตอบและบทสนทนา ถ้าผู้สอบสามารถฟังภาษาอังกฤษตามหนัง Soundtrack ที่มีบทสนทนากันไปมาในชีวิตทั่วไป ก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะส่วนของการถามตอบและสนทนา คือสิ่งที่เราเจอในชีวิตประจำวันในการทำงาน ถามสารทุกข์สุขดิบ ถามความรู้สึก ถามลูกค้าว่าอยากไปไหนต้องการอะไร ไม่มีอะไรซับซ้อน ส่วนที่จะยากที่สุดใน Listening Test ของ TOEIC คือการบรรยายสั้นๆ ซึ่งจะมีคำถามรายละเอียด ตรงนี้อาจจะสิ่งที่เราจะเจออาจจะเป็นประกาศ หรือบทสนทนาคุยกันสั้นๆ ที่จะมีรายละเอียดเยอะกว่า 3 ส่วนก่อนหน้า อาจจะต้อง note สั้นๆ ในกระดาษข้อสอบบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับการสอบฟัง cu-tep ielts หรือ toefl ง่ายกว่าเยอะหลายเท่าเลย

 

TOEIC Reading

ข้อสอบการอ่าน ออกมาเพื่อจุดประสงค์ในการวัดความเข้าใจและความเชื่อมโยงของผู้สอบว่า เมื่ออ่านตัวหนังสือต่างๆ หลายๆ แบบในโลกความเป็นจริง เราเข้าใจกันหรือไม่ มีทั้งแบบเติมคำในช่องว่าง และ ตอบคำถามเกี่ยวกับรายละเอียดในบทอ่าน ส่วนที่เติมคำในช่องว่าง มักจะเล่นเรื่อง Part of Speech เราแยกออกหรือไม่ว่า อันไหนคำนาม อันไหนกริยา อันไหนคือคำคุณศัพท์ ส่วน Grammar ไม่ซับซ้อน ระดับคำศัพท์ให้เราพอรู้คือพวกคำเชื่อมต่างๆ เช่น Although Because So Therefore While In case of พวกนี้ช่วยได้มาก และคำศัพท์หมวดอื่นๆ ก็ไม่ยาก อาจจะต้องหาอ่าน และจดจำเพิ่มเติม การอ่านที่เป็น Passage ก็จะเจอหลายรูปแบบ เช่น โฆษณา ประกาศรับสมัครงาน คำประกาศของแอร์โฮสเตสในเครื่องบิน จดหมายโต้ตอบในการทำงาน จดหมายโต้ตอบระหว่างลูกค้ากับผู้ให้บริการ

 

หากคนที่กำลังตั้งใจจะสอบ สิ่งแรกที่แนะนำคือ อย่ากดดัน โทอิค ไม่ได้ยากมากเหมือนที่คิดกัน และพยายามฝึกฝนก่อนสอบ ถ้ายิ่งฝึกข้อสอบ โทอิค เยอะๆ ก็จะยิ่งทำให้มั่นใจมากขึ้น เพราะข้อสอบวนกันไปมาทุกรอบ อาจจะเปลี่ยนก็เพียงคำศัพท์ที่เอามาสอบ แต่ใจความและคำตอบหลักๆ คือเรื่องที่คล้ายๆ กัน เพราะฉะนั้น ถ้าอยากมั่นใจเพิ่มขึ้น ให้ลองหาแบบฝึกหัด ตามร้านหนังสือ หรือหาทำได้ฟรีๆ ตามอินเตอร์เน็ต Chulatutor บอกเลยว่า ช่วยได้มาก

 

ส่วนคนที่เคยไปสอบและคะแนนยังไม่ถึงที่ตั้งใจไว้ Chulatutor อยากให้กำลังใจ อย่าเพิ่งท้อ สู้ต่ออีกซักตั้ง เพราะส่วนใหญ่คนที่สอบครั้งแรก ก็มักจะตื่นเวที ยังใหม่กับบรรยากาศห้องเย็นๆ และเวลาในการทำข้อสอบที่จำกัด คะแนนเลยยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ถ้าเราลองเปลี่ยนให้เป็นแรงฮึด ฝึกทำข้อสอบให้ไวขึ้น สู้อีกสักครั้ง นำสิ่งที่เราได้จากการสอบครั้งแรกเป็นประสบการณ์ แล้วสมัครสอบอีกครั้ง ส่วนใหญ่คนที่ไปสอบอีกครั้ง มักจะประสบความสำเร็จ เพราะเรียนรู้จากการสอบครั้งแรกแล้วว่าต้องเตรียมตัว ปรับตัวอย่างไร แล้วข้อสอบ โทอิค อย่างที่เราบอกไว้ มันจะออกไม่หนีจากข้อสอบที่ผ่านมาไปไหน ขอให้สู้ต่อ อย่าท้อ ฝึกฝนต่อไป ทำต่อไป ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จไม่ไกลเกินเอื้อม

Related Posts