ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล

ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล

ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล

1.ม.มหิดลได้รับการจัดอันดับในระดับโลกจาก QS ให้อยู่ในอันดับที่ 380 จากจำนวน 1,233 และเป็นมหาวิทยาลัยไทยที่มีอันดับที่ดีที่สุดในประเทศในด้านความเป็นนานาชาติ ภายใต้ตัวชี้วัด International Students และด้านการเรียนการสอน ภายใต้ตัวชี้วัด Faculty per Student Ratio นอกจากนี้มหาวิทยาลัยมหิดลยังได้รับคะแนนการจัดอันดับในตัวชี้วัดด้าน Employer Reputation และ Citations per Faculty ที่ดีขึ้นอีกด้วย

2. Times Higher Education (THE) จัดอันดับ ให้มหิดลเป็นที่ 1 ของประเทศไทย และอยู่ในอันดับที่ 104 ของเอเชีย จากการจัดอันดับกว่า 400 มหาวิทยาลัยทั่วเอเชีย จาก 27 ประเทศ โดยมีเกณฑ์ชี้วัดใน 5 ด้าน คือ Teaching (the learning environment) 25%, Research (volume, income and reputation) 30%, Citation (research influence) 30%, International Outlook (staff, students and research) 7.5% และ Industry Income (knowledge transfer) 7.5%

3. ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2552 และยังเป็นสมาชิกเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน (ASEAN University Network) มีการผลิตผลงานการวิจัยออกมาจำนวนมาก พร้อมกับมีศูนย์วิจัยอย่างครบครัน

4. มหิดลมีเป้าหมายในการเป็น World Class Research & Creative Innovation โดยในปัจจุบันมีกลุ่มงานวิจัยใน 5 สาขาหลักด้วยกัน ได้แก่ วิทยาศาสตร์การแพทย์และคลินิก วิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ การจัดการ ศิลปศาสตร์ และกลุ่มภาษาและวัฒนธรรม ที่สำคัญมีจำนวนผลงานทางวิชาการที่ตีพิมพ์ในระดับนานาชาติบนฐานข้อมูลของ ISI databases เป็นอันดับ 1 ติดต่อกันมาอย่างยาวนาน

5. มหิดลมีระบบนิเวศที่ช่วยให้การเรียนรู้เป็นเรื่องง่าย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีบรรยากาศความเป็นนานาชาติ โดยสร้างระบบและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ล้ำยุคเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้อย่าง Mahidol Smart University ที่ประกอบด้วย ICT based, Co-working Space, Intelligent Library, Inter Campus Communication, International Center, Educational Management Information System

6. มหิดลมุ่งมั่นในการสนับสนุน Global Connectivity โดยมีพันธมิตรและสร้างความร่วมมือวิจัยกับสถาบัน/โครงการวิจัยระดับนานาชาติแบบสหสถาบันที่มี Global Impact

7.  เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนมากที่สุดในประเทศ ดังนั้นอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการศึกษามีพร้อมให้นักศึกษาได้ใช้งาน ที่สำคัญมีทุนการศึกษามากมายจากหลายๆ หน่วยงานด้วยเช่นกัน

8. ป.โท มหิดล มีหลักสูตรที่หลากหลายและได้มาตราฐานในระดับสากล โดยมีหลักสูตรไทยและหลักสูตรนานาชาติ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่สามารถผลิตบัณฑิตในระดับปริญญาเอกได้มากที่สุดในประเทศ

 


แนะนำคณะ ปริญญาโท มหิดล ยอดนิยม

ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดสอนทั้งในสายวิทยาศาสตร์ บริหารธุรกิจและสังคมศาสตร์ซึ่งมีหลากหลายสาขาให้เลือกเรียนตามความถนัดและความสนใจ ที่สำคัญหลายๆ หลักสูตรเปิดสอนทั้งภาคอินเตอร์และภาคภาษาไทยอีกด้วย

 

ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล คณะวิทยาศาสตร์

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ (หลักสูตรนานาชาติ), สาขาวิชาจุลชีววิทยาและวิทยาภูมิคุ้มกัน (หลักสูตรนานาชาติ), สาขาวิชาชีวเคมี (หลักสูตรนานาชาติ), สาขาวิชาชีววิทยาสภาวะแวดล้อม (หลักสูตรนานาชาติ)

 

ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาชีวเคมีและชีววิทยาโมเลกุลทางการแพทย์ (หลักสูตรนานาชาติ), สาขาวิชาวิทยาภูมิคุ้มกัน (หลักสูตรนานาชาติ), สาขาวิชาจิตวิทยาคลินิก, สาขาวิชานิติวิทยาศาสตร์

 

ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพยาธิวิทยาคลินิก (หลักสูตรนานาชาติ), สาขาวิชาการพยาบาลเด็ก (ภาคพิเศษ), สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ (ภาคพิเศษ), สาขาวิชาการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต, วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต: สาขาวิชาความผิดปกติของการสื่อความหมาย วิชาเอกแก้ไขการพูด

 

ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์

ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการศึกษา (หลักสูตรนานาชาติ), สาขาวิชาการจัดการการกีฬา (ภาคพิเศษ), สาขาวิชาอาชญาวิทยาและงานยุติธรรม (ภาคพิเศษ), สาขาวิชาสังคมศาสตร์สิ่งแวดล้อม, สาขาวิชาจริยศาสตร์ศึกษาเพื่อการพัฒนาองค์การ, รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานโยบายสาธารณะและการจัดการภาครัฐ

 

ป.โท มหิดล คณะวิศวกรรมศาสตร์

วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ (หลักสูตรนานาชาติ), วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรน้ำ (หลักสูตรนานาชาติ), สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ (ภาคพิเศษ), สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา (หลักสูตรนานาชาติ), สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล

 

ป.โท มหิดล วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา (ภาคพิเศษ)

 

ป.โท มหิดล วิทยาลัยการจัดการ

การจัดการมหาบัณฑิต, การจัดการมหาบัณฑิต (หลักสูตรนานาชาติ)

 

ป.โท มหิดล วิทยาลัยนานาชาติ

บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (หลักสูตรนานาชาติ) (ภาคพิเศษ), การจัดการมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการท่องเที่ยวและบริการนานาชาติ (หลักสูตรนานาชาติ) (ภาคพิเศษ)

 


ทำไมถึงควรเรียน MBA Mahidol หลักสูตรอินเตอร์

ม.มหิดลถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นระดับนานาชาติเลยทีเดียว เพราะจะเห็นว่าทางสถาบันติดอันดับ Ranking มากมายทั้งในเรื่องคุณภาพการเรียนการสอน สภาพแวดล้อม ศูนย์วิจัย โดย QS Ranking ก็จัดให้อยู่ในอันดับที่ 380 ส่วน Times Higher Education (THE) จัดอันดับ ให้มหิดลเป็นที่ 1 ของประเทศไทย

จะเห็นได้ว่า Ranking เหล่านี้ได้แสดงถึงความพร้อมในทุกๆ ด้านของสถาบัน และที่สำคัญหลักสูตรการเรียนการสอนนั้นโดดเด่นทัดเทียมกับนานาชาติ ด้วยความที่เป็นสถาบันที่เน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์มาตั้งแต่แรก ทำให้มีการวางรากฐานในด้านการพัฒนาผลงานวิจัยออกมาอย่างมีคุณภาพ โดยได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ

ซึ่งถือเป็นตัวการันตีดีกรีความพร้อมทางด้านศูนย์วิจัยและฐานข้อมูล นอกจากนี้หากนักศึกษามีผลงานดี ไอเดียโดดเด่น ที่สถาบันก็มีทุนจากภาคเอกชนและภาครัฐให้เราไปต่อยอดอีกมากมาย ต้องบอกว่า

หลักสูตร MBA Mahidol เป็นภาคอินเตอร์ซึ่งได้รับการรับรอง AACSB ที่เป็นมาตรฐานระดับโลก

มีเพียงไม่กี่มหาวิทยาลัยจากประเทศไทยได้รับการรับรองอันนี้ นอกจากนั้นหลักสูตรอินเตอร์มหิดลยังมีความเป็นสากลอย่างแท้จริง เพราะมีนักศึกษานานาชาติมากกว่า 28 ประเทศเลยทีเดียว รับรองว่าได้คุยภาษาอังกฤษแทบจะตลอดเวลา

โดยหลักสูตร Mahidol MBA อินเตอร์จะเน้นที่ทักษะการวิเคราะห์เชิงธุรกิจ โดยส่งเสริมนักศึกษาให้เข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎีและเทคนิคต่าง ๆ เพื่อกำหนดแนวคิดทางธุรกิจที่สร้างสรรค์ รวมถึงมีความ innovative สามารถวางโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ได้อีกด้วย

ที่สำคัญต้องสามารถทำงานได้จริงและพร้อมรับความท้าทายในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยที่นี่มีทั้งคณาจารย์ชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งหลายท่านมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ สามารถเป็นแนวทางในการพัฒนาความเชี่ยวชาญในสาขาธุรกิจเฉพาะด้านได้อย่างดีเยี่ยม

 


จุดเด่นของ MBA Mahidol หลักสูตรอินเตอร์

✔︎ หลักสูตรอินเตอร์ของมหิดลได้รับการรับรอง AACSB ซึ่งเป็นมาตราฐานระดับโลกที่มีเพียงไม่กี่มหาวิทยาลัยจากประเทศไทยได้รับการรับรองในมาตราฐานนี้

✔︎ ได้รับการจัดอันดับในระดับโลกจาก QS ให้อยู่ในอันดับที่ 380 และได้รับอันดับ 1 ของประเทศไทยจาก Times Higher Education (THE)

✔︎ สถาบันตั้งใจพัฒนาเรื่องงานวิจัยให้เป็น World Class Research & Creative Innovation ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากเพราะได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ

✔︎ มีความพร้อมทางด้านฐานข้อมูลและสถาบันวิจัย ทำให้จำนวนผลงานทางวิชาการที่ตีพิมพ์ในระดับนานาชาติบนฐานข้อมูลของ ISI databases เป็นอันดับ 1 ติดต่อกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งถือเป็นตัวช่วยให้นักศึกษาที่เข้ามาเรียนที่นี่ได้เจอกับคลังความรู้ระดับยอดเยี่ยม

✔︎ ตัว Campus และพื้นที่รอบๆ มีขนาดใหญ่กว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ล้ำยุคเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้อย่าง Mahidol Smart University ซึ่งครอบคลุมไปถึงระบบ IT การเรียนออนไลน์ การใช้ห้องสมุดออนไลน์ จนถึงศูนย์วิจัยออนไลน์อีกด้วย

✔︎ สนับสนุน Global Connectivity ทำให้มีพันธมิตรทางการศึกษาเป็นจำนวนมาก ช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้นักศึกษาได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับสถาบันอื่นๆ

✔︎ หลักสูตร MBA Mahidol อินเตอร์ที่นี่ถือว่ามีความเป็นสากลอย่างแท้จริงเพราะมีนักศึกษานานาชาติมากกว่า 28 ประเทศเลยทีเดียว

 

MBA Mahidol หลักสูตรอินเตอร์ ม.มหิดล เปิดรับสมัครอะไรบ้าง? และเปิดรับสมัครเมื่อไร ?
MBA Mahidol เปิดรับสมัคร : เปิดรับ 2 รอบ คือ ภาคการศึกษาที่ 1 รับสมัครช่วง เมษยาน – กรกฎาคม, ภาคการศึกษาที่ 2 รับสมัครช่วง ธันวาคม – กุมภาพันธ์
รูปแบบหลักสูตร MBA Mahidol: หลักสูตรภาษอังกฤษ มีแผน A แบบทำวิทยานิพนธ์ และแผน B แบบสารนิพนธ์
ค่าเล่าเรียน MBA Mahidol: 472,500 บาท
ระยะเวลาเรียน MBA Mahidol: 1.5 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่เลือกเรียน
การพิจารณา : ผ่านการทดสอบความรู้ด้าน ภาษาอังกฤษ (TOEFL iBT 79, IELTS 6.0, MU-Grad 70, MU-ELT 84) และ Math

 

การสมัคร คุณสมบัติ ผู้สนใจศึกษาต่อ Mahidol MBA หลักสูตรอินเตอร์

  • สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทุกสาขาจากสถาบันที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการอุดมศึกษา
  • ผ่านการทดสอบคณิตศาสตร์อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้; สอบผ่าน GMAT ภายใน 5 ปีนับจากวันที่สมัครหรือสอบผ่าน MUIC-QPT จัดโดย MUIC สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MUIC-QPT กรุณาติดต่อสำนักงานบัณฑิตศึกษา (iGS)
  • ผ่านการทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษ (TOEFL iBT 79, IELTS 6.0, MU-Grad 70, MU-ELT 84) อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ภายใน 2 ปีนับจากวันที่สมัคร

 


ทำไมถึงควรเรียน ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล สังคมศาสตร์สุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ)

มหิดลมีจุดเด่นทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพมาอย่างยาวนาน และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับชาติ โดยได้รับการจัดอันดับจาก QS World University Rankings by Subject ในปี2017 ในกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพโดยเฉพาะ อย่างที่ทราบกันดีว่ามหิดลนั้นเค้าเด่นเรื่องนี้อยู่แล้ว ดังนั้นหลักสูตรสังคมศาสตร์สุขภาพ ภาคอินเตอร์ จึงได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นเช่นกัน

เพราะถึงแม้จะอยู่ในคณะศิลปศาสตร์แต่องค์ความรู้ก็ยังเข้มข้นและสามารถต่อยอดไปทำงานในสายงานวิจัยด้านสุขภาพได้โดยตรง ยิ่งตอนนี้ประเทศไทยและต่างประเทศกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย อาชีพทางด้านสุขภาพก็ยิ่งมีความต้องการสูงมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ด้วยความที่มหิดลนั้นเป็น ศูนย์บริการสุขภาพ (Medical Services Hub) ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) ศูนย์ด้านยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และเครื่องมือแพทย์ (Medical Product and Device Hub)

มหิดลจึงเป็นโรงเรียนแพทย์ ที่มีโรงพยาบาลขนาดมากกว่า 1,000 เตียง อยู่ในสังกัดของมหาวิทยาลัยถึง 2 โรงพยาบาล ถือว่าเป็นจุดแข็งของสถาบันเลยทีเดียว ดังนั้นนักศึกษาที่มาสมัครเรียนในสายสุขภาพได้รับประโยชน์จากการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติอย่างแน่นอน

ด้านหลักสูตรการเรียนการสอนนั้น เน้นทางภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมไปถึงงานด้านการค้นคว้าและวิจัยต่างๆ ที่ทำให้นักศึกษาสามารถพัฒนาองค์ความรู้และต่อยอดสำหรับการทำงานในอนาคตได้ โดยหลักสูตรนานาชาติจะเน้นแนวคิดเชิงทฤษฎีทางจิตวิทยาสุขภาพ

ภาพรวมของจิตวิทยา และประเด็นที่เกี่ยวข้องความเครียด การรับมือกับความเครียดและความเจ็บป่วย จนถึงภาคงานวิจัยทางสังคม การตั้งสมมติฐานหน่วยการวิเคราะห์ ตัวแปร การออกแบบการวิจัย พื้นฐานเชิงปรัชญาของการวิจัยเชิงปริมาณและคุณภาพ ซึ่งแน่นอนว่าการทำวิจัยในหลักสูตรนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นนักศึกษาจะต้องได้เจอกับวิชาเกี่ยวกับ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ ซึ่งทำให้สามารถเตรียมตัวให้พร้อมลงมือปฏิบัติจริงได้

 

จุดเด่นของ ป.โท มหิดล สังคมศาสตร์สุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ)

✔︎ มีจุดแข็งทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพมาอย่างยาวนาน และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โดยได้รับการจัดอันดับจาก QS World University Rankings by Subject ในปี2017 ในกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ

✔︎ หลักสูตรด้านสุขภาพกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดโลก ดังนั้นการเลือกเรียนที่มหิดลที่มีจุดเด่นด้านสายสุขภาพอยู่แล้ว จะเป็นการต่อยอดให้นักศึกษาได้รับโอกาสดีๆ ในด้านอาชีพการงานอย่างแน่นอน

✔︎ มหิดลเป็นศูนย์ Medical Hubs ขนาดใหญ่ระดับประเทศ ทำให้นักศึกษามีโอกาสได้เรียนรู้และปฏิบัติงานจากการลงมือทำอย่างแท้จริง

✔︎ ได้รับการจัดอันดับในระดับโลกจาก QS ให้อยู่ในอันดับที่ 380 และได้รับอันดับ 1 ของประเทศไทยจาก Times Higher Education (THE)

✔︎ สถาบันตั้งใจพัฒนาเรื่องงานวิจัยให้เป็น World Class Research & Creative Innovation ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จเพราะ ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ

✔︎ มีความพร้อมทางด้านฐานข้อมูลและสถาบันวิจัยทำให้จำนวนผลงานทางวิชาการที่ตีพิมพ์ในระดับนานาชาติบนฐานข้อมูลของ ISI databases เป็นอันดับ 1 ติดต่อกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งถือเป็นตัวช่วยให้นักศึกษาที่เข้ามาเรียนที่นี่ได้เจอกับคลังความรู้ระดับยอดเยี่ยม

✔︎ ตัว Campus และพื้นที่รอบๆ มีขนาดใหญ่กว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ล้ำยุคเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้อย่าง Mahidol Smart University ซึ่งครอบคลุมไปถึงระบบ IT การเรียนออนไลน์ การใช้ห้องสมุดออนไลน์ จนถึงศูนย์วิจัยออนไลน์อีกด้วย

 

ป.โท มหิดล สังคมศาสตร์สุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ) เปิดรับสมัครอะไรบ้าง? และเปิดรับสมัครเมื่อไร ?
เปิดรับสมัคร : เปิดรับสมัครตลอดปี
รูปแบบหลักสูตร : หลักสูตรภาษอังกฤษ มีแผน A แบบทำวิทยานิพนธ์ และแผน B แบบสารนิพนธ์
ค่าเล่าเรียน : ค่าหน่วยกิตเริ่มต้นที่ 1,800 บาท
ระยะเวลาเรียน : 2 ภาคการศึกษา
การพิจารณา : มีผลคะแนนภาษาอังกฤษและมีการสอบสัมภาษณ์

 

เกณฑ์คะแนนภาษาอังกฤษ ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล
เกณฑ์คะแนนภาษาอังกฤษ ปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล

การสมัคร คุณสมบัติ ผู้สนใจศึกษาต่อ ป.โท มหิดล สังคมศาสตร์สุขภาพ (หลักสูตรนานาชาติ)

  • สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาสังคมศาสตร์หรือสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้แก่ พยาบาลศาสตรบัณฑิต แพทยศาสตรบัณฑิต ทันตแพทยศาสตรบัณฑิต และสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต จากสถาบันอุดมศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษารับรอง
  • มีเกรดคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.50
  • ต้องมีประสบการณ์ในการทำงานที่เกี่ยวข้องมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
  • ผ่านการทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษ (TOEFL iBT, IELTS, MU-Grad, MU-ELT) อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ภายใน 2 ปีนับจากวันที่สมัคร
Related Posts