สอบ TOEFL หรือ IELTS ดีกว่ากัน เข้าใจเหตุผลก่อนเลือกสมัคร
เมื่อพูดถึงการทดสอบวัดระดับทักษะทางภาษาอังกฤษ ในเมืองไทยของเราจะแบ่งออกเป็น 2 ศูนย์สอบใหญ่ ๆ ได้แก่ TOEFL กับ IELTS ทั้งนี้จึงมักเกิดเป็นข้อสงสัยว่าควรเลือกสอบ TOEFL หรือ IELTS ดีกว่ากัน เพื่อให้เกิดความเข้าใจและตัดสินใจง่ายขึ้น จึงขอยกเอาข้อมูลน่าสนใจของการสอบทั้ง 2 ประเภท ด้วยการเทียบให้เห็นกันง่ายขึ้นว่าสรุปแล้วเลือกสอบแบบไหนเหมาะกับตนเองมากที่สุด คุ้มค่ากับการจ่ายเงินออกไปทุกบาท
ตอบข้อสงสัย สอบ TOEFL หรือ IELTS ดีกว่ากัน
การสอบ TOEFL คือ การสอบวัดทักษะด้านภาษาอังกฤษดำเนินการโดยผู้ให้บริการจากฝั่งอเมริกา ปกติแล้วแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ในปัจจุบัน ได้แก่
- การสอบ TOEFL IBT เป็นการสอบด้วยคอมพิวเตอร์ (น่าเชื่อถือที่สุด) ค่าใช้จ่ายราว 215 USD แบ่งรูปแบบการสอบเป็น 4 พาร์ท คือ Listening, Reading, Writing, Speaking คะแนนเต็ม 120 คะแนน
- การสอบ TOEFL ITP เป็นลักษณะตอบคำถามลงในกระดาษ ค่าใช้จ่ายราว 1,800 บาท แบ่งรูปแบบการสอบเป็น 3 พาร์ท คือ Listening Comprehension, Structure and Written Expression และReading Comprehension คะแนนเต็ม 677 คะแนน
การสอบ IELTS คือ การสอบวัดทักษะด้านภาษาอังกฤษดำเนินกาโดยผู้ให้บริการจากสหราชอาณาจักร และ ออสเตรเลีย ปกติแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ได้แก่
- การสอบ IELTS Academic / General Training ค่าใช้จ่าย 6,900 บาท เน้นการสอบเพื่อนำไปใช้สมัครเรียน สมัครงาน ย้ายถิ่นฐาน
- การสอบ IELTS UKVI ค่าใช้จ่าย 7,710 บาท เน้นการสอบเพื่อนำไปใช้เรียนต่อกับสถาบันในกลุ่มสหราชอาณาจักร
- การสอบ IELTS Life Skills ค่าใช้จ่าย 5,800 บาท เน้นการสอบเพื่อขอวีซ่าในการแต่งงานหรือการเป็นพลเมืองของประเทศ
ในส่วนของแนวข้อสอบ IELTS จะคล้ายกันทั้ง 3 แบบ คือ การสอบ Listening, Writing, Reading, Speaking ยกเว้น IELTS Life Skills ที่จะสอบเฉพาะในส่วนของ Listening กับ Speaking เป็นหลัก
สรุปแล้วสอบ TOEFL หรือ IELTS ดีกว่ากัน
จากสิ่งที่อธิบายมาเบื้องต้นจะพบถึงข้อแตกต่างบางอย่างที่มีความชัดเจน นั่นคือเรื่องของผู้ให้บริการสอบ จะเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ แต่มาจากโซนต่างกัน ดังนั้นการสอบ TOEFL หรือ IELTS ดีกว่ากัน จึงไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้สอบว่าต้องการสอบโดยมีวัตถุประสงค์ใด หากสอบเพื่อไปเรียนต่อในยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ การสอบ IELTS ได้เปรียบมากกว่า เพราะประเทศเหล่านี้จะให้การยอมรับ แต่ถ้าเลือกเรียนต่อในอเมริกาเหนือ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา การสอบ TOEFL ก็จะได้เปรียบในการรับเข้าเรียน
ส่วนคนที่ไม่ได้มีเป้าหมายเกี่ยวกับการเรียนในประเทศใดเป็นหลัก สอบเพื่อเข้าเรียนกับสถาบันในเมืองไทยระดับปริญญาโทขึ้นไป หรือสอบเพื่อการนำไปใช้สมัครงาน เลื่อนตำแหน่ง ปรับเงินเดือน จะเลือกสอบแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้สอบกันเลย
จากที่อธิบายมานี้คงพอมองเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นกว่าควรสอบ TOEFL หรือ IELTS ดีกว่ากัน เพราะทั้งคู่ก็มีประโยชน์และช่วยให้ทุกคนทำตามความคาดหวังของตนเองไม่ยาก เพียงแค่ต้องเริ่มต้นวางแผนการสอบของตนเองให้ชัดเจนตั้งแต่แรก จะสอบเพื่อเหตุผลใด ใช้งานกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไหน จากนั้นจึงค่อย ๆ เลือกการสอบ ติวสอบกับบรรดาติวเตอร์ รวมถึงฝึกทำแบบฝึกหัดให้บ่อย เชื่อว่าจะช่วยให้ผลคะแนนออกมาตรงตามที่คาดหวังไม่ยาก และนำไปใช้สอบเข้า หรือสมัครงานตามจุดประสงค์ของตนเองกันเลย
