สอบ IELTS คืออะไร ตารางสอบ IELTS IDP British Council 2024

สอบ ielts

IELTS คืออะไร?

IELTS คือ ข้อสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษ ย่อมาจาก International English Language Testing System มีการสอบทั้งหมด 4 พาร์ท ได้แก่ Writing Reading Listening และ Speaking มีคะแนนเต็ม 9.0 โดยทั่วไปจะทราบผลหลังวันสอบประมาณ 2 สัปดาห์ คะแนนสอบมีอายุ 2 ปี ค่าสอบประมาณ 6,900 บาท ตารางสอบ มีให้เลือกสมัครสอบทุกสัปดาห์ สามารถเลือกสมัครสอบที่ไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็น  British Council หรือ IDP และนอกจากนี้ก็ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าการสอบ ต้องมีอายุเท่าไหร่ แต่จะกำหนดเพียงแค่ว่า หากผู้สอบมีอายุน้อยกว่า 18 ปี จะต้องยื่นใบยินยอมจากผู้ปกครองประกอบการสมัครสอบด้วยเท่านั้น

สอบไอเอลสำคัญไหม?

คะแนน IELTS สำคัญจำเป็นต่อการใช้ชีวิตต่างแดนเนื่องจากคะแนนที่ได้จากการสอบสะท้อนถึงความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจำวัน การเรียน และการทำงานในต่างประเทศที่ที่แวดล้อมไปด้วยภาษาอังกฤษ ดังนั้นการสอบ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่พิสูจน์ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ และเป็นใบเบิกทางในการสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย

ทำไมต้องสอบ ?

ใช้คะแนนสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำระดับนานาชาติ และใช้ยื่นสมัครงานในประเทศและต่างประเทศ

สอบไอเอล แบบไหนง่ายกว่า

IELTS มี 2 แบบคือ Academic และ  General training

โดยการสอบแบบ Academic จะวัดทักษะขั้นสูงกว่า และมีความยากมากกว่าการสอบแบบ General training ทั้งนี้การเลือกสอบขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการนำไปใช้

IELTS สอบอะไรบ้าง

IELTS สอบอะไรบ้าง ?

การสอบ IELTS ทดสอบทั้ง 4 ทักษะ คือ Listening, Speaking, Reading และ Writing

IELTS Listening

ข้อสอบ การฟัง Listening สามารถฟังได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น สิ่งสําคัญ คือ ต้องมีสมาธิตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด 30 นาที
ข้อสอบจะเหมือนกันคือ มีทั้งหมด 40 ข้อ ให้เวลา 40 นาที คะแนนเต็ม 9.0 คะแนน ( 40 questions / 30 minutes / Band Scores 9.0)

สำหรับคนที่เลือกสอบกับ British Council สำเนียงในการสอบจะเป็นแบบ United Kingdom ส่วนคนที่เลือกสอบ IDP สำเนียงในการสอบจะเป็นแบบ Australia โดยข้อสอบจะมีทั้งหมด 4 แบบ คือ

Section 1 บทสนทนาของคน 2 คน พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตประจำวัน

Section 2 บทพูดของคน 1 คน ซึ่งยังคงพูดเรื่องราวในชีวิตประจำวันอยู่

Section 3 บทสนทนาแบบกลุ่ม โดยเรื่องราวที่พูดคุยจะเป็นแนววิชาการ

Section 4 บทพูดเชิงวิชาการของคน 1 คน

เทคนิคการทําข้อสอบ Listening

เราต้องพยายามทำความเข้าใจกับโจทย์ก่อนที่จะเริ่มฟัง ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้รู้ได้ว่า สิ่งที่เราต้องฟังหรือต้องหาคำตอบนั้นคืออะไร เทคนิค IELTS Listening ต่อมาที่พลาดไม่ได้เลยคือ การสังเกตคำถาม Wh-Question คำถามพวกนี้ต้องฟังให้ดี เพราะนั่นคือคีย์เวิร์ดสำคัญที่จะทำให้เราไม่หลงทาง ทั้งนี้ เรื่องของการสะกดคำและ Grammar ต่าง ๆ ก็ไม่ควรพลาด เนื่องจากการสอบ IELTS Listening นั้น แม้เราจะรู้ว่าคำตอบข้อนั้นคืออะไร แต่หากเราสะกดผิดก็จะไม่ได้คะแนนในข้อนั้นนั่นเอง

IELTS Reading

การอ่าน Reading Academic จะมีบทความยาวทั้งหมด 3 บทความ ซึ่งเนื้อหาเกี่ยวกับข้อมูลเชิงวิชาการ และอาจมีแผนภาพ กราฟ หรือรูปภาพประกอบอยู่ด้วย

ข้อสอบ Reading General Training จะมีให้อ่าน 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นเรื่องสั้นประมาณ 2-3 บทความ ส่วนที่สองเป็นเรื่องสั้นเกี่ยวกับการทำงาน และส่วนสุดท้ายเป็นบทความยาว 1 บทความ

เทคนิคการทำข้อสอบ Reading ให้ได้คะแนนดี ๆ

เทคนิคการอ่าน Reading ให้ทันเวลา จะต้องใช้ทักษะการอ่านแบบ Skimming และการอ่านแบบ Scanning เพราะหากเราอ่านทุกตัวอักษรในแต่ละบทความก็จะเสี่ยงในการทำข้อสอบไม่ทัน

การอ่านแบบ Skimming จะเป็นการอ่านอย่างเร็ว ๆ เป็นจุด ๆ โดยเน้นอ่านเพื่อหาใจความสำคัญ และอ่านเพื่อหารายละเอียดที่สำคัญ ๆ ของบทความนั้น ๆ

การอ่านแบบ Scanning จะเป็นการอ่านแบบผ่าน ๆ สนใจเฉพาะประเด็นที่เราต้องการเท่านั้น เช่น ข้อมูลตัวเลขบางอย่าง ชื่อคน ชื่อสถานที่ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือการฝึกอ่านเยอะ ๆ ฝึกอ่านบ่อย ๆ เพื่อที่จะได้ใช้เทคนิคเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

IELTS Writing

การเขียน Writing Academic และ General จะไม่เหมือนกัน มีคำถามทั้งหมด 2 ข้อ ให้เวลาทำข้อสอบ 60 นาที (60 minutes) คะแนนเต็ม 9.0

Writing task 1

ข้อสอบ Writing Task 1 จะให้เขียนอธิบายเกี่ยวกับข้อมูลที่แสดงอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น Bar chart , Line graph , Table , Pie chart เป็นต้น และการเขียนต้องไม่น้อยกว่า 150 คำ (write at least 150 words) ภายใน 20 นาที (20 minutes)

Writing task 2

ข้อสอบ Writing Task 2 จะให้เขียนเรียงความแสดงความคิดเห็นไม่ต่ำกว่า 250 คำ (write at least 250 words) ภายใน 40 นาที (40 minutes) ซึ่งคำถามมีหลายแบบ เช่น Connector , Agree or Disagree , Descriptive essay , Problem and solution essay , Advantages and Disadvantages , Cause and effect essay , Formal words เป็นต้น

เทคนิคทำข้อสอบ Writing ให้คะแนนดี

เทคนิควิธีการเขียน Writing Task 1

แนะนำให้น้องๆ อ่านบทความใน The Financial Times และ The Economist นิตยสารเกี่ยวกับธุรกิจ เศรษฐกิจ หุ้น การเงิน ซึ่งส่วนมาก จะมีการอธิบายด้วย Graph , Chart , Table , Diagram

เทคนิควิธีการเขียน Writing Task 2

ข้อสอบ Task 2 จะเป็นคำถามปลายเปิดเกี่ยวกับ Topics ประเด็นต่างๆ เช่น Art ,Business & Money , Crime & Punishment etc. ให้น้องๆ ได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งจะมีรูปแบบในการตอบ 5 แบบ ได้แก่

1. Agree & Disagree – การเขียนแสดงความคิดเห็นแบบ เห็นด้วยหรือไม่ เทคนิคคือ ควรเลือกเลยว่าจะเขียนแบบเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย หาเหตุผลมาสนับสนุนพร้อมยกตัวอย่างประกอบ โดยข้อสอบรูปแบบนี้จะเป็นรูปแบบที่ออกบ่อยมากที่สุด

2. Cause & Effect เทคนิค คือ ควรเขียนสาเหตุและผลกระทบพร้อมการอธิบายและยกตัวอย่างในแต่ละพารากราฟเลย

3. Problem & Solution เทคนิคคือ ในพารากราฟแรกควรเขียนถึงปัญหาทั้งหมดก่อน และในอีกหนึ่งพารากราฟก็ควรเขียนถึงทางการแก้ปัญหา สำหรับทางแก้ปัญหาในการตอบให้พยายามคิดกว้างๆ เช่น การให้ความร่วมมือของรัฐบาล และ หน่วยงานเอกชน เป็นต้น

4. Descriptive essay การตอบคำถามแบบบรรยาย ควรแบ่งจำนวนพารากราฟตามคำถามที่ได้มา (สังเกตุจากเครื่องหมายคำถาม) และควรใช้ Adj. ในการบรรยายให้เห็นภาพ

5. Discuss (Advantage vs. Disadvantage) – ควรตัดสินใจก่อนว่าจะเลือกยืนฝั่งข้อดี หรือข้อเสีย เลือกฝั่งไหนให้คิดฝั่งนั้นมากกว่า เช่น ถ้าเลือกจะชูข้อดี ให้คิดข้อดีสัก 3 ข้อ ข้อเสียสัก 2 ข้อ แบ่งออกเป็น 2 พารากราฟ และเอาข้อเสีย (ฝั่งที่เราไม่ได้เลือก) ขึ้นเป็น Body พารากราฟแรกก่อนเสมอ

 

IELTS Speaking

การพูด Speaking จะใช้เวลาสอบ 10-14 นาที คะแนนเต็ม 9.0 สำหรับการสอบ Academic และ General Training ข้อสอบจะเหมือนกันคือมีคำถามให้เราพูดทั้งหมด 3 Part คือ

Part 1 : Introduction and questions on familiar topics ใช้เวลา 4-5 นาที (4-5 minutes) คำถามจะเป็นเรื่องทั่วไป (General Questions) เช่น ครอบครัว ที่อยู่อาศัย อาชีพ การเรียน การทำงาน งานอดิเรก เป็นต้น

Part 2 : Individual long turn ผู้สอบจะได้บัตรคำถามจาก Examine หลังจากนั้นจะได้เวลาเตรียมตัวก่อนพูด 1 นาที (1 minute to prepare)หลังจากนั้นจะให้พูดบรรยายหัวข้อที่ได้รับ พาร์ทนี้จะใช้เวลาสอบ 1-2 นาที (1-2 minutes)

Part 3 : Two-way discussion เป็นการคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับ Examiner ใช้เวลาในการสอบ ประมาณ 4-5 นาที (4-5 minutes)

เทคนิคการทำข้อสอบ Speaking

Part 1- เรารู้แล้วว่า ในส่วนแรกจะเป็นการถามเกี่ยวกับตัวเราเองและครอบครัว แนะนำให้ผู้สอบตอบคำถามที่กระชับ ไม่ยืดเยื้อ และตรงประเด็นได้เลย

Part 2 – จะเป็นการพูดในเรื่องเกี่ยวกับ Topic Card ที่เราเลือกมา แนะนำให้หาไอเดียจากหัวข้อนั้น แล้วหาเหตุผลมารองรับ ยกตัวอย่างประกอบ จากนั้นให้ทำการสรุปประเด็น

Part 3 – จะเป็นการพูดที่ซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิม คำถามอาจจะทำให้เราต้องวิเคราะห์เยอะมากขึ้นก่อนที่จะตอบ สิ่งที่สำคัญที่อยากเน้นมาก ๆ คือ อย่าตอบแค่ Yes. หรือ No. แล้วจบ พยายามให้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือตอบให้มากกว่า 1 ประโยคเข้าไว้

เรียน IELTS

คอร์ส เรียนสอนสด รับรองผล

– คอร์สเรียนสอนสด กับ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อสอบโดยตรง

– Part Speaking และ Listening เรียนกับ อาจารย์ต่างชาติ เจ้าของภาษาโดยตรง

– Part Writing และ Reading เรียนกับ อาจารย์คนไทย (จบทางด้านอักษร เกียรตินิยม) โดยตรง ที่เข้าใจถึงพื้นฐานภาษาอังกฤษของคนไทย

– มีปูพื้นฐาน Grammar ก่อนเริ่มเรียน จึงทำให้ผู้เรียนมั่นใจได้ว่าแม้ห่างหายจากภาษาอังกฤษไปนาน ก็สามารถเรียนตามได้ทัน

– มีคลิปสรุปทบทวนหลังเรียน ให้ฟรี

– มีสรุปคลิป สรุปคำศัพท์ ที่ออกสอบบ่อย ให้ฟรี

– คอร์สสอนสด สามารถสอบถามได้ทันที ที่สงสัย

– คอร์สกลุ่มเล็ก บรรยากาศเหมือนเรียนตัวต่อตัว

– อัพเดทข้อสอบรอบล่าสุด

– คอร์สรับรองผล หากสอบไม่ถึงเกณฑ์ สามารถกลับมาเรียนซ้ำใหม่ได้ฟรี

คอร์ส-IELTS

IELTS ควรเรียนตอนไหน ?

ควรเริ่มศึกษาข้อมูลตั้งแต่ ม.5 และเตรียมตัวโดยการติวยาวไปตั้งแต่ ม.5 จนถึง ม.6 เพราะคะแนนสามารถเก็บได้ 2 ปีหากน้องสอบผ่านคะแนนภาษาอังกฤษแล้ว จะได้มีเวลาในการเตรียมตัวเก็บคะแนนวิชาอื่นต่อไป

เปรียบเทียบ ศูนย์สอบ IELTS British Council VS IDP

ตารางสอบ และค่าสอบของทั้งสองศูนย์สอบนี้จะมีความถี่ไม่แตกต่างกัน ค่าสอบ เท่ากัน นอกจากนี้ยังมีการจัดสอบทั้งแบบ paper และแบบ computer เหมือนกันด้วย ดังนั้น ใครที่กำลังคิดอยู่ว่าจะสอบ ที่ไหนดี แนะนำให้เลือกสนามสอบที่เราสะดวกในการเดินทางมากที่สุดได้เลย เพราะมาตรฐานทุก ๆ ด้านจะไม่ต่างกันมากนั่นเอง

สมัครสอบ IDP

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ สมัครสอบ IDP

2. เลือกประเภทการสอบ

3. เลือกประเทศ จังหวัด และ ประเภทการสอบ

4. เลือกสถานที่สอบที่ผู้สอบสะดวก และวันสอบ

5. กรอกรายละเอียดการสมัครของคุณและอัพโหลดเอกสาร

6. ยืนยันวันที่และรายละเอียดการสอบ

7. ชำระเงินค่าสมัครสอบภายใน 24 ชั่วโมง (ช่องทางการชำระเงิน)

8. หลังจากการชำระเงินเสร็จสมบูรณ์ ผู้สอบจะได้รับอีเมลยืนยันการชำระเงิน

9. ก่อนวันสอบ 2-3 วัน ผู้สอบจะได้รับอีเมลแจ้งเตือน ซึ่งจะมีรายละเอียดวันสอบ เวลาสอบ และสถานที่สอบ

วิธีการชำระค่าสมัคร IDP

ชำระเงินออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต/เดบิต , ชำระเงินที่สำนักงาน IDP , ชำระเงินที่เซเว่นได้ทุกสาขา หรือชำระเงินผ่านพร้อมเพย์ (ธนาคารใดก็ได้)

สมัครสอบ British Council

ประเภทการสอบราคา

Academic (แบบกระดาษหรือแบบคอมพิวเตอร์)

7,100 บาท
General training เชิงฝึกอบรมทั่วไป – ณ ศูนย์สอบ
(แบบกระดาษหรือแบบคอมพิวเตอร์)
7,100 บาท
UKVI เชิงวิชาการ – ณ ศูนย์สอบ
(แบบกระดาษหรือแบบคอมพิวเตอร์)
7,710 บาท
UKVI เชิงฝึกอบรมทั่วไป – ณ ศูนย์สอบ (แบบกระดาษหรือแบบคอมพิวเตอร์)7,710 บาท
IELTS Life Skills (A1 และ B1) – ณ ศูนย์สอบ 5,800 บาท

วิธีการชำระค่าสมัคร British Council

ชำระโดยการโอนเงินผ่านทางธนาคาร – โอนค่าสอบไปยังบัญชีธนาคาร บริติช เคานซิล – ส่งหลักฐานการชำระเงินมายังอีเมล [email protected] หรือชำระเงินด้วยตนเองที่ บริติช เคานซิล สาขาสยามแสควร์ (จันทร์ – เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.)

เปรียบเทียบการสอบ Computer Based VS Paper Based

ควรเลือกสอบ บนคอมพิวเตอร์ (Computer-delivered) หรือสอบ แบบกระดาษ (Paper-based) หากไม่ถนัดพิมพ์ให้เลือกสอบแบบกระดาษ แต่หากถนัดพิมพ์มากกว่าเขียน ให้เลือกสอบแบบคอมพิวเตอร์

สอบ Online ต่างจากการสอบปกติยังไง?

การสอบ Online นั้น จะมีเนื้อหาข้อสอบเหมือนกับการสอบแบบ Paper-based และแบบ Computer-delivered เลย เพียงแต่เป็นรูปแบบใหม่ที่ผู้สอบสามารถสอบได้จากที่บ้านเลย โดยทำข้อสอบผ่านโปรแกรมที่จะมีให้โหลดหลังสมัครสอบเรียบร้อย

การสอบ Online มีข้อจำกัดอะไรบ้าง?

การสอบออนไลน์เปิดให้สอบเฉพาะแบบ Academic Regular เท่านั้น ยังไม่มีแบบ General Training และ การสอบ UKVI และการรับผลสอบเป็นแบบ Digital เท่านั้น (ไม่มีผลเป็นกระดาษให้)

ผลสอบ Online ออกเมื่อไหร่?

ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป โดยนับจากวันที่สอบไป 13 วัน

ทดลอง เรียน IELTS Online Free กับ CHULATUTOR​

เรียน IELTS
private

ทดสอบ IELTS Test Online Free

ผู้สนใจสอบ สามารถลองทำตัวอย่างข้อสอบได้ที่ ลิงค์ด้านล่าง โดยจะเป็นแนวข้อสอบจริง เพื่อประเมินความพร้อมว่ามีความพร้อมในการสอบมากน้อย ระดับไหน 

เปรียบเทียบ IELTS Academic VS General VS IELTS for UKVI

Academic

ใช้สำหรับคนที่ต้องการเอาคะแนน ไปยื่นเรียนต่อในระดับปริญญาตรี-เอก หรือเอาไปใช้ในการทำงาน

IELTS General Training

ใช้สำหรับคนที่เอาไปเรียนต่อในระดับมัธยมหรือคนที่จะย้ายถิ่นฐานไปต่างประเทศ

เปรียบเทียบ Academic VS General Training

 AcademicGeneral Training
การฟัง Listeningเวลา 30 นาที + 10 นาที เขียนคำตอบลง Answer Sheet ฟังทั้งหมด 4 Parts (40 ข้อ)
การอ่าน Reading

– เวลา 60 นาที

– อ่าน 3 Passages ยาวเชิงวิชาการ เช่น บทความที่มาจากหนังสือ บทวิเคราะห์ต่างๆ

– เวลา 60 นาที

– อ่าน 3 Passages สั้น เกี่ยวกับเรื่องทั่วไป เช่น ข่าวหนังสือพิมพ์ คู่มือ แผ่นพับ

การ Writing

– เวลา 60 นาที เขียน 2 ชิ้น

– สรุปกราฟ/ตาราง 150 คำ

– เขียนเรียงความ 250 คำ

– เวลา 60 นาที

– เขียนจดหมาย 150 คำ

– เขียนเรียงความ 250 คำ

การพูด Speakingเวลา 11 – 14 นาที สัมภาษณ์ตัวต่อตัว เกี่ยวกับคำถามทั่วไป และ การถามถึงประเด็นต่างๆ

IELTS for UKVI

ใช้ขอวีซ่าเพื่อศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักร

เปรียบเทียบ IELTS VS UKVI

ไอเอลUKVI
สอบวัดผลภาษาอังกฤษใช้ขอวีซ่า
สำหรับนักเรียนที่ต้องการ Student Visa (Tier 4) หรือใช้สมัครเรียนในไทยและต่างประเทศสำหรับนักเรียนที่ต้อง Student Visa (Tier 4)
ต้องสอบผ่านเกณฑ์ และได้ Unconditional Offer เท่านั้นจึงจะสามารถยื่นเรียนต่อได้หากสอบไม่ผ่านเกณฑ์ แต่ได้ Conditional Offer สามารถไปเรียน Pre-sessional course ได้
ค่าสมัครสอบ 6,900 บาทค่าสมัครสอบ 7,710 บาท

ค่าสมัครสอบ IELTS

สอบกับคอมพิวเตอร์ ค่าสมัครสอบ 7,500 บาท

สอบ IELTS Regular 6,900 บาท

สอบ IELTS UKVI 9,009 บาท

สอบ Life Skills 6,757 บาท

ตารางสอบ IELTS 2024

ตารางสอบ IDP 2024

ตารางสอบ IELTS IDP 2024

ตารางสอบ British Council 2024

IELTS คะแนนเต็ม เท่าไร?

คะแนนเต็ม คือ 9 คะแนน โดยการสอบจะเป็นการวัดทั้งหมด 4 Skills คือ Listening, Speaking, Reading และ Writing ซึ่งในแต่ละ Skill คะแนนจะมี range อยู่ที่ 1.0-9.0

ในส่วนของคะแนนสอบ จะเรียกคะแนนเป็น แบนด์ (Band) ซึ่งมี range คะแนนตั้งแต่ 1.0 ไปจนถึงสูงสุดที่ 9.0 โดยจะเพิ่มขึ้นที่ละ 0.5 แล้วค่อยนำคะแนนทั้งหมดมาหารรวม เรียกว่า “Overall” ในแต่ละแบนด์สามารถอธิบายระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษได้ ดังนี้

คะแนนความมหมายคะแนน
9Expert User
8Very Good User
7Good User
6Competent User
5Modest User
4Limited User
3Extremely Limited User
2Intermittent User
1Non-User
Related Posts