SAT คืออะไร ใช้ยื่นอะไรบ้าง ค่าสอบเท่าไหร่
การสอบ SAT คืออะไร คำถามที่มีคนจำนวนไม่น้อยเกิดข้อสงสัย โดยเฉพาะวัยเรียนที่กำลังวางแผนของตนเอง ดังนั้นหากน้อง ๆ คนไหนอยากเรียนต่อต่างประเทศ หรือเรียนคณะอินเตอร์ของสถาบันชื่อดังในเมืองไทย ก็ควรต้องศึกษาข้อมูลเอาไว้อย่างละเอียด รับรองว่าจะช่วยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิม การสอบนี้ใครก็มีสิทธิ์ทำคะแนนสูง
SAT คืออะไร
SAT ย่อมาจาก Scholastic Aptitude Test ซึ่งถ้าอธิบายแบบเข้าใจง่าย SAT คือ รูปแบบการทดสอบเพื่อประเมินความรู้ในด้านวิชาการสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อในระดับปริญญาตรีกับมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ รวมถึงในปัจจุบันการเรียนกับภาคอินเตอร์ของมหาวิทยาลัยหลายแห่งในเมืองไทยก็ใช้คะแนนดังกล่าวเป็นตัวช่วยชี้วัดเพื่อประเมินด้วย ดังนั้นน้อง ๆ ที่เรียนระดับ ม.ปลาย ควรรีบวางแผนการเข้าเรียนต่อของตนเองได้แล้ว
ความน่าสนใจของการสอบประเภทนี้อย่างหนึ่งคือ College Board หน่วยงานผู้พัฒนาข้อสอบนี้ขึ้นมา พวกเขาวางเหตุผลในการสอบไปจนถึงลักษณธคำถามในข้อสอบเพื่อต้องการประเมินความรู้ของผู้ที่จะเปลี่ยนสถานะตัวเองจากนักเรียนมาสู่นักศึกษา จึงควรมีความรู้เบื้องต้นทั้งในเรื่องทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ ไปจนถึงการบรรยายเรื่องราวผ่านการเขียน
SAT ใช้ยื่นอะไรได้บ้าง รูปแบบข้อสอบเป็นยังไง
- ผู้ที่สงสัยว่า SAT ใช้ยื่นอะไรได้บ้าง ก็ตามที่บอกไว้เลยว่าหากผลคะแนนการสอบนี้จะถูกเอาไปใช้เพื่อยื่นเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ เกือบทังหมด ขณะที่ในเมืองไทยของเราหากเป็นสถาบันดัง ๆ ที่เปิดการเรียนการสอนภาคอินเตอร์ก็ใช้คะแนนดังกล่าวเพื่อเป็นตัวชี้วัดด้วยเช่นกัน จึงอยากให้วางแผนชัดเจนก่อนตัดสินใจสมัคร
ในส่วนของรูปแบบข้อสอบหลัก ๆ แล้ว จะเย้น 2 รายวิชาเพื่อประเมินทักษะในด้านที่ระบุเอาไว้ ประกอบไปด้วยเนื้อหาเบื้องต้น ดังนี้
1.Reading & Writing Section
การสอบรายวิชาภาษาอังกฤษ แบ่งออกเป็น 2 Module ดังนี้
Moduleที่ 1 จำนวนข้อสอบ 27 ข้อ ระยะเวลาสอบ 32 นาที
Moduleที่ 2 จำนวนข้อสอบ 27 ข้อ ระยะเวลาสอบ 32 นาที
- เนื้อหาที่ออกสอบจะเป็นลักษณะ Short Paragraph, Numerous Passage, Short Stories+Poems, Bullet Point Question โดยข้อสอบจะสั้นลงกว่า SAT รูปแบบเดิมแต่ก็ต้องใช้ทักษะการวิเคราะห์เยอะมากขึ้น
2. Math Section
สำหรับการสอบรายวิชาคณิตศาสตร์ แบ่งออกเป็น 2 Module ดังนี้
Moduleที่ 1 จำนวนข้อสอบ 22 ข้อ ระยะเวลาสอบ 35 นาที
Moduleที่ 2 จำนวนข้อสอบ 22 ข้อ ระยะเวลาสอบ 35 นาที
- โดยข้อสอบ จะครอบคลุมในส่วนของ Algebra, Advanced Math, Problem Solving and Data Analysis, Geometry and Trigonometry (ไม่มี Complex Number) และ Grid In สามารถตอบติดลบได้
สมัครสอบ SAT ทำยังไง ค่าสอบเท่าไหร่
ถ้ากำลังสงสัยว่าการสมัครสอบ SAT ต้องทำยังไงแล้ว ค่าสอบอยู่ที่กี่บาท มาหาข้อมูลไปพร้อมกันเลยดีกว่า
- คลิกเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ https://www.collegeboard.org/ เพื่อเตรียมสมัคร
- กรณียังไม่เคยสมัครมาก่อนให้ทำการ Create Account แล้วใส่ข้อมูลให้ครบถ้วนเป็นภาษาอังกฤษ
- เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วก็ทำการล็อกอินเข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย
- กรอกรายละเอียดตามเงื่อนไขที่ทางเว็บระบุเอาไว้เป็นภาษาอังกฤษให้ครบถ้วน อย่าลืมเลือกวันสอบ สนามสอบ และอื่น ๆ
- ทำการชำระเงินด้วยวิธีตัดบัตรเครดิต หรือการจ่ายเงินผ่านระบบ PayPal เท่านี้ก็เตรียมพร้อมสำหรับการสอบได้เลย
ค่าสอบ SAT ปกติแล้วจะอยู่ที่ 100.50 USD อย่างไรก็ตามหากคนที่สมัครช้าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มเป็น 29 USD (ชำระก่อนสอบล่วงหน้าน้อยกว่า 1 เดือน
คอร์สเรียนสด SAT Digital
คอร์ส ติว SAT Digital ของเราเป็นคอร์สกลุ่มเล็ก ไม่เกิน 10คน/ห้อง ทำให้ดูแลได้อย่างทั่วถึง น้องๆสามารถถามได้ทันที ที่สงสัย
สอนโดย พี่เปิ้ลและทีมอาจารย์ ที่มากประสบการณ์ในการสอน จึงทำให้น้องๆ มั่นใจได้ว่า คอร์ส ติว คอร์สเดียวสอนทั้ง Math และ Verbal ทั้ง 2 พาร์ท
โดยเนื้อหาหลักสูตรภายในคอร์ส จะสอนตั้งแต่พื้นฐานคณิตศาสตร์ การใช้สูตร คำศัพท์ แบบฝึกหัด จนไปถึง ตัวอย่างข้อสอบ รอบล่าสุด และ ที่พลาดไม่ได้คือ เก็งข้อสอบให้กับน้องๆ ในการพิชิตข้อสอบ
| วันเรียน | รอบ | เวลา | หมายเหตุ | เหลือที่นั่ง |
| 22 เม.ย. - 30 พ.ค. | จ,อ,พฤ | 17:00-19:00 | จองที่นั่ง
|
5 |
รีวิว เรียน SAT กับ ครูพี่เปิ้ล CHULATUTOR
คอร์สเรียน SAT Digital แบบตัวต่อตัว ความรู้แน่น
คอร์สติวสอบ SAT Digital สนใจมองหาเทคนิคเด็ด ๆ เพื่อนำไปปรับใช้การสอบจริงจากติวเตอร์ชนิดตัวต่อตัว จะเลือกเข้าเรียนกับสถาบันมีห้องเรียนแยกนั่งคนเดียว เพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่วันไหนไม่ว่างก็เลือกเรียนออนไลน์ผ่านโปรแกรม Zoom ได้ด้วยตามสะดวก นี่คืออีกคอร์สดี ๆ ที่ไม่อยากให้พลลาด ความรู้อัดแน่นจัดเต็มขนานแท้ คะแนนดีขึ้นเยอะ
คอร์สเรียน SAT Digital แบบวีดีโอ (สมัครเรียนแล้ว เริ่มเรียนได้เลยทันที)
คอร์สติวสอบ SAT Digital ด้วยรูปแบบเรียนผ่านคลิปวิดีโอ เนื้อหาเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ติวเตอร์อธิบายข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน มีการเพิ่มเติมเทคนิคดี ๆ เพื่อนำไปในการสอบจริง เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้อยู่ต่างจังหวัดก็ไม่ใช่ปัญหา พิเศษสุดคือ จะย้อนกลับไปฟังทบทวนตอนไหนก็ทำได้ตลอด เน้นย้ำเรื่องที่ตนเองสนใจหรือยังสงสัย ไม่ยากอย่างที่คิด
